ทัวร์อิหร่าน 17-24 ต.ค. 2568

กด Download โปรแกรม อิหร่าน

อัตราค่าบริการ

ราคา 69,900 บาท  / ท่าน

พักเดี่ยว มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม  6,000 บาท/ท่าน

Confirm เดินทาง 7 ท่าน แบบมีหัวหน้าทัวร์ไทยเดินทางไปด้วย

-----------------------------

กรุงเตหะราน(Tehran) เมืองหลวง ของ อิหร่าน อิหร่านเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด ในแถบประเทศ ตะวันออกกลาง เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของประเทศ และยังเป็นเมืองศูนย์กลางธุรกิจ การบิน พาณิชย์ของภูมิภาคตะวันออกกลางอีกด้วย

เมืองอีสฟาฮาน (Isfahan) เมืองใหญ่เป็นอันดับสามของอิหร่าน เป็นเมืองที่มีอายุเก่าแก่ร่วม 1,800 ปี และเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเปอร์เซีย มั่งคั่งด้านศูนย์กลางการค้าขาย อุตสาหกรรม ศูนย์กลางของวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ศิลปกรรม วรรณกรรมและวิทยาการ จนถึงขั้นสูงสุดในเกือบทุกด้าน โดยเฉพาะการทอพรมเปอร์เซีย การประดิษฐ์อักษรภาพอิสลามอันแสนวิจิตรสวยงามแบบเปอร์เซีย

เมืองคาชาน (Kashan) เป็นเมืองทางตอนเหนือของอิศฟาฮาน เป็นโอเอซิสขนาดใหญ่แห่งแรกบนถนน Qom-Kerman ซึ่งไหลไปตามขอบทะเลทรายตอนกลางของอิหร่าน เป็นหนึ่งในศูนย์กลางหลักของอารยธรรมในยุคก่อนประวัติศาสตร์

เมืองชีราซ (Shiraz) เมืองแห่งกวี มีทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตผู้คนให้ดื่มด่ำ ก็ต้อง มีความงดงามทางสถาปัตยกรรมแบบเปอร์เซีย และ มีความสุนทรีทางด้านกวีและวรรณกรรม

เมืองวาร์ซาเน่ห์(Vazarneh) เป็นเมืองทะเลทรายโบราณทางตอนกลางของอิหร่านในจังหวัดอิสฟาฮาน โดยอยู่ห่างจากเมืองอิสฟาฮาน 1.5 ชั่วโมง สูงจากระดับน้ำทะเล 1,477 เมตร เป็นอารยธรรมสุดท้ายในแม่น้ำ Zayanderud ตั้งแต่ 5,000 ปีก่อน

ลักษณะทริป
* การท่องเที่ยวเชิงศิลปะ วัฒนธรรม
* เดือนตุลาคมกลางวันจะสั้น พระอาทิตย์ตกเร็ว
* อุณหภูมิช่วงเดือนตุลาคม 15-28 องศาเซลเซียส
* อาหารบางมื้ออาจต้องเป็นอาหารกล่อง/แซนวิช เพื่อความสะดวกในการเดินทาง เพราะร้านอาหารเปิดช้า
* ทริปนี้เดินเยอะเป็นบางวัน รองเท้าต้องสวมใส่สบาย
* คนท้องถิ่นน่ารัก อัธยาศัยดีมาก ชอบถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว แต่การถ่ายภาพบุคคลควรได้รับการอนุญาตก่อน
* อิหร่านเป็นประเทศที่นับถือศาสนาอิสลาม จะไม่มีหมูให้รับประทาน และไม่ควรนำผลิตภัณฑ์จากหมูเข้าประเทศ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจไม่มีให้บริการ
* สุภาพสตรีต้องคลุมศรีษะตลอดเวลาที่อยู่ภายนอกห้องพัก และต้องแต่งตัวมิดชิด รัดกุม เสื้อแขนยาวความยาวคลุมสะโพก กางเกงขายาวหรือกระโปรงยาว ห้ามเสื้อแขนสั้น แขนกุด กางเกงห้าส่วน  
* สุภาพบุรุษงดสวมเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น
* ที่พักระดับ 4-5 ดาว ของเมืองนั้นๆในประเทศอิหร่าน บางแห่งเป็นโรงแรมแบบดั้งเดิม
*  อาหารอิหร่านหรืออาหารเปอร์เซียนั้นส่วนใหญ่คือ ข้าว เนื้อสัตว์ และสลัด มักเสิร์ฟพร้อมสมุนไพรสด ชีสและโยเกิร์ต ขนมปัง ผัก ถั่ว อาหารยอดนิยมเช่น เคบับ ผักดอง ปลารมควัน แผ่นแป้ง Lavash อาหารหลายรายการจะมีความเปรี้ยว มีสีสันสดใสที่ได้จากสมุนไพรและเครื่องเทศ
*  สถานที่ท่องเที่ยวอาจถูกปิดไม่ให้เข้าชม โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
*  ในทุกวันศุกร์ ร้านค้าในย่าน Bazaar จะเปิดให้บริการเป็นบางร้าน

รายละเอียดการเดินทาง
วันที่หนึ่ง ศ 17 ต.ค. 68: กรุงเทพฯ-เตหะราน ประเทศอิหร่าน
19.00 น.  คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสายขาออกระหว่างประเทศ ประตู 4 Row F เคาน์เตอร์ สายการบิน MAHAN AIR พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกเอกสารการเดินทางและสัมภาระก่อนขึ้นเครื่อง

22.20 น.  ออกเดินทางสู่ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เที่ยวบินที่ W5 050 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7h20m มีอาหารร้อนบริการบนเครื่อง

วันที่สอง  ส 18 ต.ค. 67: เตหะราน-คาชาน-Fin Garden-Abyaneh -อิสฟาฮาน
 02.10 น.  เดินทางถึง Imam Khomeini International Airport (IKA) **เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 3ชั่วโมง30 นาที** (สุภาพสตรีกรุณาคลุมผมให้เรียบร้อยก่อนลงจากเครื่อง) หลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเสร็จเรียบร้อยแล้ว รับกระเป๋าสัมภาระ จากนั้นนำท่านเช็กอินเข้าที่พักโรงแรมใกล้สนามบิน  โรงแรม REXAN AIRPORT HOTEL หรือเทียบเท่า 5 ดาว
07.00 น.  บริการอาหารเช้า(มื้อที่ 1)
08.00 น.  หลังอาหารนำท่านเดินทางโดยรถปรับอากาศสู่เมืองคาชาน Kashan ตั้งอยู่ทางใต้ของกรุงเตหะราน ระยะทาง 210 กม. ใช้เวลาประมาณ 2.5-3 ชั่วโมง มีชื่อเสียงด้านการทำเครื่องปั้นดินเผา กระเบื้องเคลือบ และการทอผ้า ทอพรม ต่อมาในยุคของราชวงศ์ ซาฟาวิด ปกครองเมืองคาชานก็ได้มีความเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้นในฐานะเมืองศูนย์กลางทางการค้า และเป็นที่เป็นประตูสู่เมืองต่าง ๆ ในพื้นที่ทะเลทรายทางด้านตะวันออก นำท่านชมสวน Fin Garden ซึ่งเป็นสวนที่อยู่ติดกับที่ราบเชิงเขาซาโกรส ถูกสร้างขึ้นในราชวงศ์ซาฟาวิด โดย ชาห์ อับบาสที่ 1 ออกแบบให้เป็นสวนแบบเปอร์เซีย ภายในสวนได้ถูกตกแต่งด้วยน้ำพุ ที่เกิดจากแหล่งน้ำธรรมชาติซึ่งมีความดันจากน้ำใต้ดิน สามารถให้มีกำลังน้ำที่ไหลไปตามท่อต่างๆ และไหลไปหล่อเลี้ยงต้นไม้ต่างๆ ภายในสวนด้วย และยังมีวังอันสวยงามที่ถูกสร้างเป็น 2 ชั้นสำหรับเป็นที่ประทับ พร้อมกันนั้นก็มีห้องอาบน้ำและอบไอน้ำ จากนั้นชม Tabatabaie House เป็นพิพิธภัณฑ์บ้านโบราณ สร้างในปี 1880 ในสมัยราชวงศ์ Qajar เป็นอาคารที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์แห่ง Kashan ออกแบบโดย  Ustad Ali Maryam สำหรับตระกูล Tbabtabaie พ่อค้าพรมผู้มั่งคั่ง ครอบคลุมเกือบ 5,000 ตร.ม. มีห้องมากถึง 40 ห้อง สามอาคารกังหันลม เรียกว่า "badgir"เป็นระบบปรับอากาศทำให้บ้านเย็นสบายในช่วงฤดูร้อน และลาน 4 แห่ง แบ่งเป็นสวน Biruni คือสวนสาธารณะ และ Andaruni สวนที่ปิดสำหรับผู้หญิง สถาปัตยกรรมแบบเปอร์เซียดั้งเดิม ตกแต่งด้วยปูนปั้นและประตูและหน้าต่างไม้แกะสลักภายในของบ้านมีหน้าต่างโมเสกหลากสีและภาพวาด มีนกในตำนาน Homa ชมโรงอาบน้ำ Sultan Mir Ahmad Bathroom หรือที่จักกันในนาม Qasemi Bathhouse เป็นโรงอาบน้ำสาธารณะแบบดั้งเดิมของอิหร่าน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 ในช่วงยุค Safavid โรงอาบน้ำได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวในปี 1778 และได้รับการบูรณะในช่วงยุค Qajar โรงอาบน้ำแห่งนี้ตั้งชื่อตาม Imamzadeh Sultan Amir Ahmad ซึ่งมีสุสานอยู่ใกล้เคียง มีพื้นที่ประมาณ 1,000 ตร.ม. ประกอบด้วยโรงอาบน้ำส่วนแรกเรียกว่า Sarbineh (ห้องรับฝากเสื้อผ้า)เป็นห้องโถงที่มีเสาแปดเหลี่ยมวางรอบสระน้ำพุแปดเหลี่ยม ถัดไปเป็น Garmkhaneh (ห้องร้อน) ผ่านทางเดินศาลาสี่เสาพร้อมสระน้ำร้อนใช้เป็นส่วนหลักของการอาบน้ำเพื่อให้ผู้คนได้ขัดผิวและรับการนวด ในขั้นตอนสุดท้ายต้องล้างในสระน้ำร้อนภายในห้องรอบ (Khazineh) ซึ่งน้ำจะเปลี่ยนทุก ๆ วัน ภายในโรงอาบน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องปูพื้นสีฟ้าครามและสีทองปูน ฉาบผนังก่ออิฐและภาพวาดศิลปะ หลังคาของโรงอาบน้ำทำจากโดมหลายชิ้นที่มีแก้วนูนเพื่อให้แสงสว่างเพียงพอ
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 2)
บ่าย  หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมือง Abyaneh ระยะทาง 90 กม. ใช้เวลาเดินทางราว 1.50 ชั่วโมง เที่ยวชม หมู่บ้านอะบิยาเน่ห์ Abyaneh Village เป็นหมู่บ้านโบราณที่อยู่บนเทือกเขาซาร์โกรส ซึ่งใกล้กับบริเวณที่เรียกว่ายอดเขาคาคลาส มีความสูงถึง 3,899 เมตร หมู่บ้านนี้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั้ง ชาวอิหร่านและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เนื่องจากยังมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบเดิมๆ ใช้ภาษาปาเธียน เป็นภาษาพูดในหมู่บ้าน ผู้หญิงจะใช้ผ้าคลุมศีรษะเป็นลวดลายดอกไม้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ที่สำคัญคือ บ้านทุกหลังจะถูกฉาบด้วยดินโคลนสีแดง (เหมือนอิฐเผาบ้านเรา) ผสมกับเศษของต้นมอลท์ (พืชที่ใช้หมักเบียร์) เหมือนกันไปหมดทุกหลัง ล้อมรอบด้วยเทือกเขาสูง สมควรแก่เวลาเดินทางสู่เมืองอิสฟาฮาน ระยะทาง 165 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดฯ อยู่ทางใต้กรุงเตหะราน ห่าง 406 กม. มีประชากรประมาณ 2 ล้านคน(2016) ใหญ่เป็นอันดับสามของอิหร่าน เป็นเมืองที่มั่งคั่งด้านศูนย์กลางการค้าขาย อุตสาหกรรม ศูนย์กลางของวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ศิลปกรรม วรรณกรรมและวิทยาการ จนถึงขั้นสูงสุดในเกือบทุกด้าน โดยเฉพาะการทอพรมเปอร์เซีย การประดิษฐ์อักษรภาพอิสลามอันแสนวิจิตรสวยงามแบบเปอร์เซีย
ค่ำ  เดินทางถึงเมืองอิสฟาฮาน เช็กอินเข้าที่พัก พร้อมäบริการอาหารค่ำ (มื้อที่ 3)
ที่พัก โรงแรม ABBASI HOTEL ISFAHAN หรือเทียบเท่า 5 ดาว

                        

วันที่สาม อา 19 ต.ค. 68: อิสฟาฮาน-City Tour; Chehel Sotoun Palace-Naghshe Jahan Square-Imam Mosque-Sheikh Lotfollah Mosque- Ali Qapu Palace- Qeysarieh Bazaar
 
07.00 น.  บริการอาหารเช้า(มื้อที่ 4)
08.00 น.  หลังอาหารนำท่านเดินทางไปชมพระราชวัง Chehel Sotun Palace เป็นศาลากลางสวนสร้างโดย Shah Abbas II เพื่อใช้สำหรับความบันเทิงและรับรองแขก ในภาษาเปอร์เซีย มีความหมายว่า เสา 40 ต้น ได้แรงบันดาลใจมาจากเสา 20 เสารองรับศาลาทางเข้าที่สะท้อนน้ำมองเห็นเป็น 40 เสา มีภาพจิตรกรรมฝาผนังตกแต่งเช่นเดียวกับ Ali Qapu เช่นการต่อสู้ที่น่าอับอายของ Chaldiran กับ Selim I สุลต่านตุรกี, การต้อนรับกษัตริย์อุซเบกในปี 1646,ไปถึงจักรพรรดิโมกุล Humayun ผู้ลี้ภัยในอิหร่านในปี 1544 , การต่อสู้ของ Taher-Abad ในปี ค.ศ. 1510 ที่ Safavid Shah Ismail I และสังหารกษัตริย์อุซเบก ภาพวาดล่าสุดแสดงให้เห็นชัยชนะของ Nader Shah ต่อกองทัพอินเดียที่ Karnal ในปี 1739 ที่วัง Chehel Sotoun เป็นหนึ่งในสวนอิหร่าน 9 แห่งซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งใน 23 มรดกโลกของอิหร่านภายใต้ชื่อสวนเปอร์เซีย จากนั้นเดินเที่ยวชม จัตุรัสนัค เอ ฌะฮาน (Naghshe Jahan Square)  ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งนับว่าเป็น จัตุรัสที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจัตุรัสเทียนอันเหมิน ที่มีความกว้าง 165 เมตร และมีความยาวถึง 500 เมตร รวมเนื้อที่ประมาณ 80,000 กว่าตารางเมตร ใหญ่กว่าจัตุรัสแดงในกรุงมอสโคว์ถึง 2 เท่า ในอดีตเป็นสนามแข่งโปโล หรือ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า จัตุรัสอิหม่าม Imam Square อัญมณีแห่งโลกมุสลิมที่ผนวกรวมทั้งแนวความคิด ปรัชญา และสถาปัตยกรรมที่สวยงามเอาไว้ในที่เดียวกัน นำท่านเข้าชม มัสยิด Shah Mosque อยู่ทางใต้ของจัตุรัส สร้างในสมัยราชวงศ์ซาฟาวิดภายใต้คำสั่งของชาห์อับบาสที่ 1 แห่งเปอร์เซีย เป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมเปอร์เซียในยุคอิสลาม ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1611 แล้วเสร็จปี ค.ศ. 1629 ประดับด้วยกระเบื้องโมเสกเจ็ดสีและการจารึกอักษรอันวิจิตร อยู่บนธนบัตร 20,000 เรียล โดยมียอดโดมสูง 30 เมตร และมีเสามินาเรตที่มีความสูง 42 เมตร ต่อด้วยการเข้าชม มัสยิดชีคห์ลอทฟอลลาห์ (Sheikh Lotfollah Mosque) ซึ่งสร้างโดยชาห์ อับบาสที่ 1 เช่นเดียวกัน ซึ่งจะใช้เป็นมัสยิดส่วนพระองค์และราชวงศ์เท่านั้น โดยเฉพาะตัวโดม ซึ่งถือได้ว่างดงามที่สุดในประเทศ
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 5)
บ่าย   หลังอาหารนำท่านเข้าชม พระราชวังอาลี คาปู (Ali Ghapou Palace) ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ชาห์ อับบาสที่ 1 โยมีการสร้างเพิ่มเติมจนมีทั้งหมด 6 ชั้น ซึ่งได้ถูกตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมที่หลากหลายโดยช่างฝีมือชั้นยอด จิตรกรชั้นครูในสมัยนั้น พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประทับและรับรองแขกบ้านแขกเมือง พร้อมกันนี้ชั้นบนสุดยังได้ตกแต่งเป็นห้องสำหรับฟังเพลงและเล่นดนตรี ส่งท้ายก่อนที่จะอำลาจัตุรัสแห่งนี้ด้วยการ จากนั้นให้อิสระท่านเดินเล่นช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้ากันที่ Qeysarieh Bazaar หรือ Grand Bazaar สร้างขึ้นครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 11 เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้าที่ยิ่งใหญ่และหรูหราที่สุดในยุค Safavid สร้างขึ้นใหม่ในปี 1620 เป็นหนึ่งในตลาดนัดที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลางในยุค Safavid และเป็นตลาดหลังคาที่ยาวที่สุดในโลก ยาว 2 กม. เชื่อมเมืองเก่ากับเมืองใหม่ จะมีโซนงานหัตถกรรม ทอง เงิน พรม รองเท้า และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมนั่งรถม้ารอบๆจัตุรัส สมควรแก่เวลานำท่านเที่ยวชม สะพานคาจู Khaju Bridge เป็นสะพานเก่าแก่ที่สวยงามที่สุดในเมืองอิสฟาฮาน  ของประเทศอิหร่าน ข้ามแม่น้ำแม่น้ำซอยันเดห์โรด์ (Zayandeh-Rud) สร้างมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิตีมูร์ ในศตวรรษที่ 15 ก่อนที่ในศตวรรศที่ 17 ราวปี ค.ศ. 1650 กษัตริย์ชาวเปอร์เซีย "ชาห์ อับบัสที่ 2" แห่งราชวงศ์ซาฟาวิด (Safavid Dynasty) ได้สร้างสะพานใหม่ทับรากฐานสะพานเก่า ในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบสะพานโค้งโรมัน สะพานคาจูมีสีน้ำตาลอ่อนตามสีอิฐที่ใช้ก่อสร้าง มีความยาวถึง 132 เมตร กว้าง 12 เมตร มี 2 ชั้น ประกอบด้วยซุมโค้ง 23 ซุ้ม โครงสร้างด้านบนเป็นอิฐ สร้างเป็นถนนให้สัญจร ตรงกลางทั้งสองข้างของสะพาน มีศาลาโถงรูปหกเหลี่ยมตั้งอยู่ อดีตเป็นพลับพลาที่ประทับ เพื่อให้กษัตริย์และข้าราชบริพาร ชื่นชมทัศนียภาพของความงดงามของสายน้ำ
เย็น   บริการอาหารค่ำ(มื้อที่ 6)
ที่พัก  โรงแรม ABBASI HOTEL ISFAHAN หรือเทียบเท่า 5 ดาว

วันที่สี่  จ 20 ต.ค. 68: อิสฟาฮาน- Varzaneh
07.00 น.  บริการอาหารเช้า(มื้อที่ 7)
08.00 น.  หลังอาหารนำท่านชม Vank Church มหาวิหารแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1606 แล้วเสร็จ 1664 สร้างขึ้นโดยชาวอาร์เมเนียนับร้อยนับพันที่ถูกบังคับให้อพยพโดย Shah Abbas I มหาวิหารประกอบด้วยวิหารโดมเหมือนมัสยิดอิหร่าน การตกแต่งภายในถูกเคลือบด้วยภาพสีเฟรสโก้และงานแกะสลักปิดทองและรวมถึงงานปูกระเบื้อง โดมกลางทาสีฟ้าและสีทองแสดงถึงเรื่องราวในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเกี่ยวกับการสร้างโลกและการขับไล่ผู้ชายออกจากเอเดน ทั่วโบสถ์ถูกวาดด้วยลวดลายอาร์เมเนีย เพดานด้านบนทางเข้าวาดด้วยลวดลายดอกไม้ที่ละเอียดอ่อนในสไตล์เปอร์เซียขนาดเล็ก ผนังภายในส่วนบนเป็นเหตุการณ์ชีวิตของพระเยซู ในขณะที่ส่วนด้านล่างแสดงให้เห็นการทรมานชาวอาร์เมเนียในจักรวรรดิออตโตมัน สมควรแก่เวลาออกเดินทางกันต่อสู่เมือง เมือง Varzaneh ห่างจากอิสฟาฮานทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 110 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นเมืองทะเลทราย มีประชากร 12,714 คน (2016) อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,477 เมตร เป็นอารยธรรมล่าสุดในแม่น้ำ Zayanderud ตั้งแต่ 5,000 ปีที่แล้ว

กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 8)
บ่าย  นำท่านเปลี่ยนเป็นรถเล็กออกไปเที่ยวชม Salt Lake เป็นทะเลสาบน้ำเค็ม มีพื้นที่กว่า 15 ตร.กม. อยู่ใกล้กับ Hassan Abad City และหมู่บ้าน Khara Village เราจะเห็นดินแดนที่เต็มไปด้วยผลึกเกลือ มีเหมืองเกลือใกล้เคียงที่ผลิตเกลือบริโภคได้ประมาณ 60% ของทั้งประเทศ จากนั้นชมทะเลทราย Varzaneh Desert เป็นทะเลทรายอันงดงามซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในทะเลทรายที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดของอิหร่าน มีความสูง 5-62 เมตร เหมาะแก่การเล่นกระดานโต้คลื่นและร่มร่อน อยู่ในเขตตะวันตกของพื้นที่ชุ่มน้ำ Gavkhoni ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่า 17,000 เฮกเตอร์ กว้างประมาณ 30 กม. และทอดตัวจากพื้นที่ชุ่มน้ำ Gavkhoni ไปยังเมือง Varzaneh โดยมีความยาว 60 กม. จนถึงทางใต้ของทะเลสาบ Gavkhoni และหมู่บ้าน Jara อิสระเดินเล่นถ่ายภาพ รอชมพระอาทิตย์ตก สมควรแก่เวลานำท่านเข้าที่พัก อิสระพักผ่อน
เย็น  บริการอาหารค่ำ(มื้อที่ 9)
ที่พัก  โรงแรมแบบดั้งเดิม NEGAR TRADITIONAL HOUSE VARZANEH หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า  อ 21 ต.ค. 68: Varzaneh - พระราชวังโบราณเปอร์ซีโปลิส-ชีราซ
06.00 น. บริการอาหารเช้า(มื้อที่ 10) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองมาร์พดาสท์ (Marvdasht) จังหวัด Fars นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่า Marvdasht เป็นชื่อหนึ่งของย่านเมืองเก่า Estakhr มีความเก่าแก่พอ ๆ กับประวัติศาสตร์ของอิหร่านและจักรวรรดิเปอร์เซีย ระยะทาง 420 กม. ใช้เวลาเดินทางราวๆ 6 ชั่วโมง
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 11)
บ่าย  หลังอาหารนำท่านแวะชมสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่มีความเกี่ยวเนื่องกับพระราชวังเปอร์ซีโปลิส อยู่ห่างออกไปเพียง 10 นาที นั่นคือ เนโครโพลิส (Necropolis) หรือ นครหลังความตาย นัค-เชรอสตัม (Naqsh-e-Rostam) หรือ สุสานสี่กษัตริย์ สถานที่แห่งนี้เป็นสุสานของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์อะคามินิดที่เคยปกครองอาณาจักรเปอร์เซียและเคยประทับที่พระราชวังแห่งนี้มาก่อนที่จะสวรรคต แต่ด้วยความเชื่อตามหลักคำสอนของศาสนาโซโรแอสเตอร์ที่ว่า หลังจากจบสิ้นชีวิตจากความเป็นมนุษย์บนโลกใบนี้แล้ว ชีวิตก็ยังคงดำเนินต่อเพียงแต่ว่าจะต้องไปสู่อีกโลกหนึ่งหรือในอีกมิติหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องสร้างสุสานแห่งนี้ขึ้นมาให้มีความยิ่งใหญ่อลังการ เช่นเดียวกับพระราชวังที่กษัตริย์เหล่านั้นเคยประทับมาก่อน โดยการสร้างสุสานนั้นก็ไม่ได้สร้างอย่างธรรมดาทั่วๆไป มีการสร้างโดยการขุดเจาะเข้าไปเป็นห้องขนาดใหญ่บนหน้าผาหิน ซึ่งอยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 20 เมตร และได้มีการแกะสลักหินส่วนหน้าให้มีความสวยงามอีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินเที่ยวชม พระราชวังโบราณเปอร์ซีโปลิส (Persepolis) พระราชวังโบราณแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเป็นแห่งที่สองนับตั้งแต่สถาปนาอาณาจักรเปอร์เซียขึ้นเมื่อปี 559 ก่อนคริสตศักราช (โดยพระราชวังและเมืองหลวงแห่งแรกคือพาซากาด สร้างโดยกษัตริย์ไซรัสมหาราช) เริ่มสร้างโดยกษัตริย์ดาริอุสมหาราชในปี 512 ก่อนคริสตศักราช หลังจากนั้นก็มีการก่อสร้างเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องในอีก 5 รัชกาลต่อมา แต่ก็ยังไม่เคยสร้างเสร็จสมบูรณ์ จนกระทั่งมาถูกยึดครองและเผาทำลายเสียหายอย่างหนักโดยพวกกองทัพของอเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งอาณาจักรกรีซในปี 300 ก่อนคริสตศักราช แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พระราชวังโบราณเปอร์ซีโปลิสแห่งนี้ก็ยังคงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์อันยิ่งใหญ่ตลอดกาล ทั้งความใหญ่โตโอฬารของตัวพระราชวังและความอลังการทางด้านสถาปัตยกรรม ยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อ ปี ค.ศ. 1979 สมควรแก่เวลาเดินทางสู่เมืองชีราซ เมืองหลวงของจังหวัด Fars เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 5 ของอิหร่าน มีประชากรราวๆ 1.5 ล้านคน (2016) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอิหร่าน เป็นศูนย์กลางการค้านับพันปี เป็นเมืองแห่งกวี วรรณกรรมและดอกไม้ ระยะทาง 60 กม. ใช้เวลาเดินทางราวๆ 1 ชั่วโมง แวะชมสุสานท่านกวีเอกฮาเฟซ (Mausoleum of Hafez) อีกหนึ่งสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่นิยมเดินทางไประลึกถึงนักกวีเปอร์เซียผู้โด่งดัง ศาลาแบบเปิดอยู่ท่ามกลางสวน Musalla เป็นสุสานหินอ่อน สร้างขึ้นในปี 1935 และออกแบบโดยสถาปนิกและนักโบราณคดีชาวฝรั่งเศส อังเดร โกดาร์
เย็น  บริการอาหารเย็น(มื้อที่ 12)
ที่พัก  โรงแรม ZADIYEH HOTEL SHIRAZ หรือเทียบเท่า 5 ดาว

วันที่หก  พ 22 ต.ค. 68: ชีราซ-มัสยิดสีชมพู Nasir-al Molk Mosque -เตหะราน
 เช้า  äบริการอาหารเช้า(มื้อที่ 13)
08.00 น.
นำท่านเดินทางไปชมความสวยงามของ มัสยิดสีชมพู Nasir-O-Molk ภายในประดับประดาไปด้วยกระเบื้องโทนสีแดง สีชมพู สีเหลือง เป็นสีหลัก ซึ่งเป็นเพียงมัสยิดแห่งเดียวในอิหร่าน ไม่ว่าท่านจะมองมาจากมุมใดของมัสยิดก็ตามท่านจะได้เห็นสีของกระเบื้องที่ตกแต่งภายในเป็นสีชมพูสวยงามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสงแดดยามเช้าที่สาดแสงผ่านกระจกสีลงมากระทบพื้นดูสวยงามเกินคำบรรยายจริงๆ จากนั้นเดินทางต่อไปยัง สวน Eram Garden เป็นสวนสไตล์เปอร์เซียที่ได้รับมรดกโลกจากยูเนสโก เมื่อปี 2011 และยังเป็นศูนย์วิจัยพฤกษศาสตร์ ตัวอาคารภายในสวนถือเป็นผลงานชิ้นเอกในยุค Qajar สถาปัตยกรรม ภาพวาด การแกะสลัก ภาพพิมพ์ ปูกระเบื้อง อยู่ทางเหนือของแม่น้ำ Khoshk ในจังหวัด Fars คาดว่าสร้างในสมัยจักรวรรดิ Seljuk (ศตวรรษที่ 11-14) ภายใต้การปกครองของ Ahmad Sanjar จากนั้นชม Imamzadeh Ali Ibn Hamzeh (Holly Shrine) สร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้สืบเชื้อสายมาจากผู้เผยพระวจนะแห่งศาสนาอิสลาม ถูกสร้างในศตวรรษที่ 19 สมัย Qajar มีโดมที่สวยสดงดงามดึงดูดให้เราได้ไปชม เป็นสถานที่ละหมาดยอดนิยม บรรยากาศสงบสุข สถาปัตยกรรมสวยงาม ประตูไม้แกะสลักอย่างวิจิตร ภายในตกแต่งด้วยงานกระจกของอิหร่าน
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 14)
บ่าย  สมควรแก่เวลาเดินทางสู่สนามบินในประเทศ Shiraz International Airport
..........
เหินฟ้าสู่เมืองเตหะราน ด้วยสายการบินภายในประเทศ ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 25นาที
..........
เดินทางถึงสนามบินในประเทศเมืองเตหะราน Tehran Mehrabad Airport (THR) จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก ระหว่างทางแวะถ่ายภาพกับหอคอย Azadi Tower หรือหอคอยอิสรภาพ ตั้งอยู่กึ่งกลางจตุรัสอะซาดี เป็นแท่งหินยักษ์รูปตัว Y กลับหัว สร้างในปี ค.ศ. 1971 เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบ 2,500 ปี ของอาณาจักรเปอร์เซีย ตัวหอคอยสูง 45 เมตร สร้างด้วยหินอ่อนกว่า 8,000 ก้อนจากเมืองอิสฟาฮาน ซึ่งหินอ่อนทุกก้อนได้รับการคำนวณด้วยคอมพิวเตอร์ แล้วตัดออกมาด้วยฝีมือช่างอิหร่าน พื้นที่รอบ ๆ เป็นจัตุรัสโล่งกว้าง 50,000 ตารางเมตร
เย็น  บริการอาหารเย็น(มื้อที่ 15)
ที่พัก  โรงแรมเมืองเตหะราน ESPINAS INTERNATIONAL HOTEL หรือเทียบเท่า 5ดาว

วันที่เจ็ด  พฤ 23 ต.ค. 68: เตหะราน-Golestan Palace-Grand Bazaar-กรุงเทพฯ
 
07.00 น.
äบริการอาหารเช้า(มื้อที่ 16)
08.00 น.
นำท่านเดินทางสู่พระราชวัง Sadabad Palace สร้างโดยกษัตริย์ในราชวงศ์ Qajar และ Pahlavi เดิมทีเป็นที่พักของราชวงศ์แต่ในปัจจุบันกลายเป็นได้พิพิธภัณฑ์ โดย White Palace เป็นคฤหาสน์ที่ใหญ่ที่สุด เคยใช้เป็นที่ประทับในฤดูร้อนของโมฮัมหมัด เรซา ชาห์ (กษัตริย์องค์ที่สองแห่งราชวงศ์ปาห์ลาวี)กับราชินีฟาราห์ สร้างในปี ค.ศ. 1932 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1937 ส่วน Green Palace เป็นหนึ่งในพระราชวังที่สวยที่สุดในอิหร่าน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของพระราชวัง เดิมทีเป็นของ Alikhan ต่อมาเรซา ชาห์ ได้มาซื้ออาคารนี้ต่อ และได้ปรับปรุงช่วงปี 1923-1929 ภายนอกตกแห่งด้วยหินมุกสีเขียวหายากจากจังหวัด Zanjan ส่วนที่น่าสนใจคือห้องโถงกระจกที่มีพรมสั่งทำขนาด 70 ตร.ม. ที่ทอในโรงทอพรม Amoughli จากเมืองมัชฮัด

กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 17)

บ่าย  หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าชม พระราชวังโกเลสตาน(Golestan Palace) หรือ วังสวนกุหลาบ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่มาก ย้อนไปตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซาฟาวิด เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 16 ยังมีร่องรอยสิ่งก่อสร้างที่หลงเหลืออยู่ คือ ป้อมสูง Citadel สำหรับส่องดูข้าศึก และสถานอาบน้ำแบบเติร์ก ส่วนตัวอาคารแบบตะวันตก ที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบันนั้นมีเพิ่มเติมเข้ามาเมื่อกษัตริย์ราชวงศ์รองสุดท้ายของเปอร์เซีย คือราชวงศ์คาจาร์ คือ กษัตริย์นัสเซอร์อัล-ดิน ชาห์ ได้เสด็จเยือนยุโรปแล้วเห็นความเจริญ และความสวยงามทางสถาปัตยกรรมแล้วประทับใจจึงนำศิลปะยุโรป ดังกล่าวเข้ามาผสมกับวิถีชีวิตของชาวอิหร่าน **พระราชวังอาจทำการปิดไม่ให้เข้าชมโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า** จากนั้นเดินต่อไปยัง ตลาด Tehran Grand Bazaar เป็นตลาดที่มีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจและเก่าแก่นานนับพันปี ปัจจุบันมีความเชื่อว่าตลาดแห่งนี้สร้างมาตั้งแต่ในสมัยราชวงศ์ซาฟาวิด (1501 1736 ) และส่วนใหญ่ถูกต่อเติมในสมัยราชวงศ์คาจาร์ (1785 -1925) มีเนื้อที่ประมาณ 14 เฮคเตอร์ และมีทางเข้าหลัก 3 ทาง และถูกเพิ่มในเวลาต่อมาอีกสองประตู คือทางด้านตะวันออกและทางทิศใต้ ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน Imam Khomeini International Airport (IKA) พร้อม

บริการอาหารเย็น(มื้อที่ 18) แบบกล่อง/แซนวิช เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปสนามบิน
21.40 น.  เหินฟ้ากลับประเทศไทย ด้วยสายการบิน Mahan Air เที่ยวบินที่ W5 051 ใช้เวลาบิน 7h10m มีอาหารร้อนบริการบนเครื่อง

วันที่แปด  ศ 24 ต.ค. 68: กรุงเทพฯ
08.20 น.  เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

หมายเหตุ
โปรแกรมสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม

------------

อัตราค่าบริการนี้รวมถึง
-ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ชั้นประหยัด สายการบิน Mahan Air
-ค่าภาษีสนามบิน, ค่าภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ, ค่าภาษีประเทศอิหร่าน
-ค่าประกันภัยการเดินทางไทยวิวัฒน์ Basic Asia Plus วงเงิน 1,000,000.- บาท  เงื่อนไขตามกรมธรรม์ (ไม่ครอบคลุมผู้ที่มีอายุเกิน 75 ปี)
-ค่าที่พักตลอดการเดินทาง(พักห้องคู่)
-ค่าอาหารทุกมื้อที่ระบุในโปรแกรม, น้ำดื่มบริการบนรถ วันละ 2ขวด
-ค่าพาหนะ หรือ รถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่ทุกแห่งตามโปรแกรมระบุ
-เจ้าหน้าที่ไกด์คนไทย อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
-ค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ ชีราซ-เตหะราน
-ค่าวีซ่าท่องเที่ยวอิหร่าน
-ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น ค่าทิปคนขับรถและค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวมถึง
-ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าซักรีด, ค่าโทรศัพท์, ค่าแฟกซ์, เครื่องดื่มมินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุ
-ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%(ในกรกรณีที่ท่านต้องการใบกำกับภาษี)
-ค่าน้ำหนักกระเป๋าเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
-ค่าวีซ่าด่วน
-ค่าพักเดี่ยว