ทัวร์เส้นทางสายไหม หลันโจว จางเย่ ตุนหวง 8 วัน 7 คืน

ทัวร์เส้นทางสายไหม หลันโจว จางเย่ ตุนหวง 8วัน 7คืน
เทียนสุ่ย ถ้ำพุทธศิลป์ม่ายจีซาน ศาลเจ้าฝูซีเมี่ยว- จางเย่ ภูเขาสายรุ้ง วัดต้าฝอซื่อ ด่านเจียยวี่กวน - ตุนหวง เนินทรายร้องไห้หมิงซาซาน ทะเลสาบเสี้ยวจันทรา ถ้ำโม่เกาคู  ตลาดกลางคืนซาโจว นั่งรถไฟความเร็วสูงจากเทียนสุ่ยไปจางเย่
พักเฉินตู 2คืน /เทียนสุ่ย 2คืน/จางเย่ 1คืน/ จิ่วฉวน 1คืนและตุนหวง 1คืน
เดินทางโดยสายการบินเสฉวนแอร์ไลน์
กำหนดเดินทาง: 20-27 กันยายน 2568

ลักษณะทริป
- สัมผัสอารยธรรมเมืองบนเส้นทางสายไหม
- ชมถ้ำพุทธศิลป์แกะสลักจากหินที่ ถ้ำโม่เกาคูและถ้ำม่ายจีซาน
- ชมความงามหลากสีสันที่ของภูเขาสายรุ้งที่จางเย่
- ขี่อูฐสู่เนินทรายหมิงซาซาน
- เดินกำแพงเมืองจีนด่านสุดท้ายที่ด่านเจียยวี่กวน
- นั่งรถไฟความเร็วสูงจากเทียนสุ่ยสู่จางเย่
- บินภายในเฉินตูเข้าหลันโจวและตุนหวงเข้าเฉินตู
- ในแต่ละวันอาจจะต้องนั่งรถยาวนานไกล 4-5 ชั่วโมง
- ไม่ลงร้านช้อปปิ้ง เที่ยวเต็มอิ่ม
- ที่พักระดับ 4-5 ดาว มาตรฐานประเทศจีน
- อากาศดี ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป ต่ำสุด 10 องศาเซลเซียส สูงสุด 25 องศาเซลเซียส โดยประมาณ

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่หนึ่ง  20 ก.ย.68: กรุงเทพฯ-เฉินตู
15.00 น.  คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 5 Row L เค้าเตอร์สายการบินเสฉวนแอร์ไลน์ เช็กอินโหลดกระเป๋าสัมภาระ

18.05 น.  ออกเดินทางสู่เมืองเฉินตู ด้วยเที่ยวบินที่ 3U 3936 ใช้เวลาบิน 3ชั่วโมง 5นาที บนเครื่องมีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการ

22.10 น.  เดินทางถึงสนามบิน Tianfu International Airport เมืองเฉินตู(Chengdu成都市) ประเทศจีน *เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง* โดยเมืองเฉินตูเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวน เป็นหนึ่งในสามนครที่มีประชากรมากที่สุดในภาคตะวันตกของจีน ประมาณ 20ล้านคน(2020) อีกสองแห่งคือ ฉงชิ่งและซีอาน เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสี่ของจีน เป็นศูนย์กลางการด้านการเมือง การทหารและการศึกษาของภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย

ที่พัก โรงแรมใกล้สนามบิน JOYHUB CHEER HOTEL หรือเทียบเท่า 4 ดาว

วันที่สอง  21 ก.ย.68: เฉินตู-หลันโจว-เทียนสุ่ย
เช้า   บริการอาหารเช้าที่ห้องอาหาร(มื้อที่ 1) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่สนามบิน พร้อมอิสระอาหารกลางวันในสนามบิน

12.00 น. ออกเดินทางสู่เมืองหลันโจว ด้วยเที่ยวบินที่ 3U 6337 ใช้เวลาบิน 1ชั่วโมง 45นาที

13.45 น. เดินทางถึงสนามบิน Lanzhou Zhongchuan International Airport เมืองหลันโจว(Lanzhou兰州市) จากนั้นออกเดินทางโดยรถปรับอากาศสู่ เมืองเทียนสุ่ย (Tianshui天水) ใช้เวลาเดินทางราวๆ 4-5 ชั่วโมง เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองสายน้ำแห่งฟากฟ้า เป็นเมืองโบราณตั้งแต่ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก เชื่อว่าเป็นสถานเดิมของฝูซี หนึ่งในสามบรรพกษัตริย์ตามเทพนิยายปกรณัมของชาวจีน อยู่ในมณฑลกานซู มีอากาศชุ่มชื้น เย็นสบาย มีผลผลิตทางการเกษตรอุดมสมบูรณ์ เป็นเมืองใหญ่อันดับสองในมณฑลกานซู อีกทั้งยังเคยเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ตามเส้นทางสายไหม ทางตะวันตกจากฉางอันไปจนถึงเอเชียกลางและยุโรป

เย็น  บริการอาหารค่ำ(มื้อที่ 2)

ที่พัก โรงแรมเมืองเทียนสุ่ย MEI HAO LI ZHI HOTEL TIANSHUI หรือเทียบเท่า 4 ดาว

วันที่สาม  22 ก.ย.68: เทียนสุ่ย-ถ้ำพุทธศิลป์ม่ายจีซาน(รวมรถกอล์ฟ)-ศาลเจ้าฝูซีเมี่ยว-ถนนโบราณกู่เฉิง

เช้า  บริการอาหารเช้า(มื้อที่ 3) หลังอาหารออกเดินทางไปยัง ถ้ำพุทธศิลป์ม่ายจีซาน (Maijishan Gorttoes麦积山石窟) (รวมรถกอล์ฟ) อายุกว่า 1,600 ปี ถ้ำที่ถูกแกะสลักไว้ที่เขาม่ายจีซาน เมืองเทียนสุ่ย ปัจจุบันประกอบด้วยถ้ำน้อยใหญ่ราว 221 แห่ง เป็นประติมากรรมทางพุทธศาสนามากกว่า 7,200 ชิ้น และภาพจิตรกรรมฝาผนังมากกว่า 1,300 ตร.ม. ก่อสร้างในสมัยฉินตอนปลาย ราวปีค.ศ. 384-417 ถูกขยายเพิ่งเติมในหลายราชวงศ์เช่น ราชวงศ์โจวเหนือ ปี ค.ศ. 557-581 ราชวงศ์ถังปี ค.ศ. 618-907 ได้รับการสำรวจครั้งแรกในปี 1952-53 โดยทีมนักโบราณคดีชาวจีนจากปักกิ่ง เป็นหนึ่งในถ้ำพุทธที่อยู่บนเส้นทางหลักเชื่อมระหว่างจีนกับเอเชียกลาง ตามแนวเส้นทางสายไหมตะวันออก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี 2014 โดยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม ฉางอาน-เทียนซาน เป็น 1 ใน 4ถ้ำหินแกะสลักขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ได้รับการยกย่องว่าเป็นพิพิธภัณฑ์การปั้นดินเผาแห่งเอเชียตะวันออก

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 4)

บ่าย เดินทางสู่ ศาลเจ้าฝูซีเมี่ยว (Fuxi Shirne伏羲庙) ผู้ซึ่งเป็นบิดาแห่งอารยธรรมของจีนในหลายศาสตร์หลายแขนง ทั้งการปั่นไฟ การทอผ้า การปศุสัตว์ ประดิษฐ์แหจับปลา เข็มเย็บผ้า รวมถึงการคิด ระบบแซ่ เป็นต้น เป็นอาคารสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์หมิงขนาดใหญ่และได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี สร้างเมื่อปี 1490 เพื่อบูชาเทพเจ้าฝูซี ซึ่งเชื่อว่าเป็นหนึ่งในบรรพบุรุษของชาวจีน วัดแห่งนี้เป็นโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมที่สำคัญในปี 2001 ประตูทางเข้าศาลมีบานหน้าต่างไม้คู่หนึ่งแกะสลักเป็นรูป พญามังกรกับพญาหงส์ ที่งดงามอ่อนช้อย เปี่ยมด้วยพลัง ก่อนหน้ารู้จักในชื่อพระราชวังไท่ห่าวหรือวัดเหรินจง สมควรแก่เวลานำท่านเดินเล่น ถนนโบราณกู่เฉิง (Tianshui Ancient City天水古城) เป็นเมืองโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีจากราชวงศ์หมิงและชิง ให้ท่านเพลิดเพลินกับการเดินเล่นเก็บภาพบรรยากาศวิถีชีวิตและช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าต่างๆ

เย็น  บริการอาหารค่ำ(มื้อที่ 5)

ที่พัก  โรงแรมเมืองเทียนสุ่ย MEI HAO LI ZHI HOTEL TIANSHUI หรือเทียบเท่า 4 ดาว

วันที่สี่  23 ก.ย.68: เทียนสุ่ย-จางเย่ด้วยรถไฟความเร็วสูง-ภูเขาสายรุ้งอู่ฉ่ายซาน(รวมรถอุทยาน)

เช้า  บริการอาหารเช้า(มื้อที่ 6) หลังอาหารออกเดินทางไปยังสถานีรถไฟหลันโจวเพื่อเดินทางสู่ เมืองจางเย่(Zhangye张掖) เป็นเมืองในมณฑลกานซูตอนกลาง มีพรมแดนติดกับมองโกเลียในทางตอนเหนือและชิงไห่ทางตอนใต้ เดิมเป็นเมืองแห่งเซี่ยตะวันตก หนึ่งในเมืองด่านหน้าที่สำคัญของจีนตะวันตก เดิมรู้จักกันในชื่อ Ganzhou ตั้งชื่อตามแหล่งน้ำ ใช้เวลาเดินทางราวๆ 4-4.5 ชั่วโมง *ในการเดินทางด้วยรถไฟ ผู้เดินทางจะต้องรับผิดชอบขนสัมภาระด้วยตัวท่านเอง กระเป๋าควรเป็นล้อลาก ขนาดไม่ใหญ่จนเกินไปนัก เพื่อความสะดวกในการเดินทาง**

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 7)

บ่าย  เดินทางต่อไปยังอุทานธรณีแห่งชาติจางเย่ (The Zhangye National Geopark) 张掖国家地质公园ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Qilian ในเขตมณฑลซูหนานและลินเซภายในเมืองจางเย่ ครอบคลุมพื้นที่ 322 ตร.กม. หรือรู้จักกันในชื่อ Zhangye Danxia Geopark ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอุทยานธรณีแห่งชาติจางเย่ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2016 เป็นที่รู้จักกันจากแนวหินหลากสีสัน ที่ได้รับการโหวตจากสื่อจีนให้เป็นภูมิประเทศที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของจีน กลายเป็นอุทยานธรณีโลกของยูเนสโกในปี 2019 นำท่านชมความงามของเขตภูมิทัศน์จางเย่ฉีเหลียนซานตันเสียตี้เม่าหรือภูเขาสายรุ้งอู่ฉ่ายซาน (Rainbow Mountain) สีสันแปลกตาของกินที่เรียบ แหลมคม สูงหลายร้อยเมตร เป็นผลจากการสะสมของหินทรายและแร่ธาตุอื่นๆ รวมไปถึงการเคลื่อนไหวของเปลือกโลกที่เกิดนานกว่า 24 ล้านปี ประกอบกับการโดนลม ฝน กัดเซาะเป็นเวลานานทำให้มีลวดลายคล้ายๆกับเลเยอร์เค้ก  

เย็น บริการอาหารค่ำ(มื้อที่ 8)

ที่พัก  โรงแรมเมืองจางเย่ PU YUE HOTEL หรือเทียบเท่า 4 ดาว

วันที่ห้า  24 ก.ย.68: จางเย่-วัดต้าฝอซื่อ-ด่านเจียยวี่กวน(รถกอล์ฟ)-เมืองจิ่วฉวน

เช้า  บริการอาหารเช้า(มื้อที่ 9) หลังอาหารออกเดินทางไปยัง วัดต้าฝอซื่อ (Dafo Temple 大佛寺) หรือวัดพระใหญ่ เป็นวัดพุทธในมณฑลกานซู มีชื่อเสียงจากพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ สร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1100 สมัยเซี่ยตะวันตก ยาว 35 เมตร วัดได้รับการบูรณะหลายครั้งในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง กลุ่มอาคารประกอบด้วยหอพระใหญ่ 2 ชั้น สูง 33 เมตร กว้าง 49 เมตร ยาว 24 เมตร มีพื้นที่ 1,770 ตร.ม. มีพระใหญ่เคลือบทอง ด้านหลังมีพระสาวก 10 องค์ ในห้องโถง 2 ข้างมีนักรบศักดิ์สิทธิ์ 18 องค์ ผนังปกคลุมด้วยภาพจิตรกรรมสีสันสดใส หอพระพุทธ มีหนังสือบรรยายมากกว่า 6,000 เล่ม บางเล่มเขียนด้วยทองคำและเงิน เป็นเล่มที่หายากและล้ำค่าที่สุด และเจดีย์ดินเผา เป็นหนึ่งในเจดีย์ห้าองค์ มี 13 ชั้น ชั้นที่หนึ่งและสองเป็นเจดีย์ขนาดเล็ก 4 องค์ ว่ากันว่า ราชินี Bieji (ราชินีผู้โด่งดังในราชวงศ์หยวน) เคยอาศัยอยู่และให้กำเนิดกุบไลข่าน นักเดินทางชาวอิตาลี มาร์โค โปโล ประทับใจในสถาปัตยกรรมและอาศัยอยู่ที่นี่นานกว่า 1 ปี จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองเจียยวี่กวน (Jiayuguan 嘉峪关) ใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมง ผ่านเมืองจิ่วฉวนเลียบเทือกเขาหิมะฉีเหลียนซาน ในอดีตเรียก ซู่โจว มณฑลกานซู่กับเมืองอาลาช่านในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน มีความสูง 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล สภาพแวดล้อมเหมาะกับการปล่อยดาวเทียม อากาศแจ่มใสตลอดปี เมฆน้อย กลางวันยาวนาน จึงเป็นศูนย์ปล่อยดาวเทียมและขีปนาวุธต่างๆแห่งแรกและใหญ่ที่สุดของจีน รวมถึงสถานที่ปล่อยยานอวกาศที่มีคนขับแห่งเดียวของจีนอีกด้วย

กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 10)

บ่าย นำท่านชม กำแพงเมืองจีนด่านเจียยวี่กวน 嘉 峪 关 城 楼 (รถกอล์ฟ) เป็นกำแพงเมืองจีนด่านสุดท้าย อยู่ทางทิศตะวันตกไกลที่สุดของจีน ได้ถูกผนวกไว้ ปี ค.ศ. 1372 มีความสูง 1,773 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล สร้างแล้วเสร็จหลังการสถาปนาราชวงศ์หมิง สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับไปยัง เมืองจิ่วฉวน (Jiuquan, 酒泉市) เดิมชื่อ ซูโจว เป็นเมืองระดับจังหวัดทางตะวันตกเฉียงเหนือสุดของมณฑลกานซู่ ครอบคลุมพื้นที่ 191,342 ตร.กม. มีประชากรราว 1,053,100 คน(2022) เป็นสถานที่สำคัญบนเส้นทางสายไหมโบราณสู่เอเชียกลาง ก่อตั้งใน 111 ก่อนคริสตศักราชในฐานะด่านหน้าทางทหาร ตั้งแต่ปี ค.ศ. 602 เป็นที่ตั้งของจังหวัดซูโจว และภายใต้ราชวงศ์ถัง ได้เปลี่ยนชื่อเป็นจิ่วฉวน แวะถ่ายรูปป่าหูหยาง ที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสวยงาม

เย็น  บริการอาหารค่ำ(มื้อที่ 11) หลังอาหารนำท่านเช็กอินเข้าที่พัก อิสระพักผ่อน

ที่พัก โรงแรมเมืองจิ่วฉวน YUAN DONG HUA LUN HOTEL หรือเทียบเท่า 4 ดาว

วันที่หก  25 ก.ย.68: เมืองจิ่วฉวน -เมืองตุนหวง-เนินทรายหมิงซาซาน+ขี่อูฐ-ทะเลสาบเสี้ยวจันทรา(นั่งรถกอล์ฟออก) -ตลาดกลางคืนซาโจว

เช้า  บริการอาหารเช้า(มื้อที่ 12) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองตุนหวง(Dunhuang敦煌市) เป็นเมืองในมณฑลกานซู ภาคตะวันตกของจีน เป็นเมืองเก่าแก่โบราณกว่า 2,000 ปี ตุน แปลว่า ใหญ่ ส่วน หวง แปลว่า ความรุ่งโรจน์ เคยเป็นจุดแวะพักสำคัญบนเส้นทางสายไหมโบราณ เส้นทางคมนาคมสำคัญจากจีนไปยังเอเชียกลาง ยุโรปและแอฟริกาเหนือ ตั้งอยู่ในโอเอซิสที่มีทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยวและเนินทรายหมิงซาซาน อยู่ตรงทางแยกของเส้นทางสายไหมใต้โบราณและถนนสายหลักที่ทอดจากอินเดียผ่านลาซาไปยังมองโกเลียและไซบีเรียตอนใต้ ยังควบคุมเส้นทางเหอซีที่เข้าสู่ใจกลางที่ราบจีนตอนเหนือและเมืองหลวงโบราณของฉางอานและลั่วหยาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4ชั่วโมง

กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 13)

บ่าย หลังอาหารออกเดินทางไปยัง เนินทรายร้องไห้หมิงซาซาน 鸣沙山 ชื่อมาจากเสียงลมที่พัดมาจากเนินทราย คล้ายทรายร้องพลง ห่างจากเมืองตุนหวงประมาณ 5 กม. มีขนาดกว้างใหญ่กว่า 40 กม. มีทราย 5 สี คือ แดง เหลือง เขียว ขาวและดำ จากนั้นนำท่านขี่อูฐเข้าไปยังทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยวหรือ ทะเลสาบเสี้ยวจันทรา (Crescent Lake月牙泉) ตั้งอยู่ใจกลางทะเลทรายโกบี เดิมเรียกว่าบ่อทราย หรือบ่อโอสถ เป็นทะเลสาบบ่อน้ำรูปพระจันทร์เสี้ยว อากาศสดใส สีครามของท้องฟ้าและสีขาวของก้อนเมฆจะสะท้อนกับน้ำในทะเลสาบ ส่งให้ทะเลสาบแห่งนี้กลายเป็นเดือนเสี้ยวที่ส่องสว่างในเวลากลางวัน ไม่ว่าสภาพอากาศจะแย่เพียงใด ลมพายุทะเลทรายจะพัดแรงแค่ไหน สระน้ำแห่งนี้ก็ไม่เคยแห้งไปเลย เนื่องจากทิศทางของลม จะพัดทรายออกจากสระแห่งนี้ตลอดเวลานั่นเอง สมควรแก่เวลานั่งรถกอล์ฟออก จากนั้นนำท่านเดิน ตลาดกลางคืนซาโจว(Shazhou Night Market) เป็นตลาดกลางคืนที่ใหญ่และมีของให้เลือกชมทั้งของกิน ผลไม้ขึ้นชื่อต่างๆของมณฑลกานซู สินค้าของที่ระลึกต่างๆ มีทั้งหินเครื่องประดับ เครื่องดนตรี ภาพวาด เป็นต้น

เย็น  บริการอาหารค่ำ(มื้อที่ 14)

ที่พัก โรงแรมเมืองตุนหวง LU YE HOTEL หรือเทียบเท่า 4 ดาว

วันที่เจ็ด  26 ก.ย.68: เมืองตุนหวง-ถ้ำโม่เกาคู(รถอุทยาน)-พิพิธภัณฑ์เมืองตุนหวง -เฉินตู

เช้า  บริการอาหารเช้า(มื้อที่ 15)
 
หลังอาหารนำท่านชม ถ้ำโม่เกาคู(Mogao Cave莫高窟) แปลว่า ถ้ำสูงในทะเลทราย เนื่องจากถ้ำตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองตุนหวง ซึ่งเป็นโอเอซีนกลางทะเลทรายโกบี มีพื้นที่รวมกว่า 45,000 ตร.ม. ภายในถ้ำเต็มไปด้วยวัตถุทางพุทธศาสนามากมาย และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสี่ถ้ำแกะสลักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีนและได้รับมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1987 มีอายุกว่า 1,000 ปี เริ่มสร้างโดย หลวงพ่อเล่อ จุน ย้อนไปเมื่อ ปี ค.ศ. 366 หลวงพ่อเห็นแสงสีทองบนเนินทรายหมิงซาราวกับพระพุทธเจ้าหลายพันองค์ปรากฎ จึงได้ขุดถ้ำเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมพระสงฆ์ และมีการก่อสร้างถ้ำเรื่อยมา จนถึงศตวรรษที่ 7 มีถ้ำพุทธศิลป์กว่า 1,000 ถ้ำ แต่ปัจจุบันค้นพบเพียง 492 ถ้ำ เรียงรายบนหน้าผาที่มีความยาวกว่า 1,600 เมตร สร้าง 2-3 ชั้น บางจุดมี 4 ชั้น มองระยะไกลเหมือนกับรังผึ้ง พร้อมกับโบราณวัตถุอีกนับ 10,000 ชิ้น ด้านหน้ามีหอคอย 9 ชั้น สร้างเมื่อปี ค.ศ. 695 เพื่อใช้ปกป้องพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานภายใน

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 16)

บ่าย นำท่านเที่ยวชม พิพิธภัณฑ์ตุนหวง (Dunghuang Museum, 敦煌博物館) ตั้งอยู่ในเมืองตุนหวง มณฑลกานซู ซึ่งเดิมเป็นสำนักงานโบราณคดีซึ่งอยู่ภายใต้สังกัดศูนย์วัฒนธรรมของเมือง ก่อตั้งอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 1979 เป็นอาคาร 3 ชั้น ครอบคลุมพื้นที่ 2,400 ตร.ม. สร้างแล้วเสร็จในปี 1984 โดยส่วนใหญ่จัดแสดงโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ปัจจุบันรวบรวมโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าในท้องถิ่นไว้มากกว่า 4,000 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีการจำลองถ้ำโม่เกาและจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงามไว้ที่นี่ โดยห้องนิทรรศการที่ 1 จะเป็นยุคใหม่ของตุนหวงในสมัยราชวงศ์ฮั่น เนื่องจากเป็นสายทางสายไหมโบราณ เพลิดเพลินไปกับการค้าผ้าไหม พัฒนาการทางทหาร การเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมในตุนหวง ห้องนิทรรศการที่ 2 ตุนหวงในราชวงศ์เว่ย, จิน ราชวงศ์ใต้และเหนือ ช่วงที่วัฒนธรรมเจริญรุ่งเรือง ขุดพบอุปกรณ์ทหาร ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เตาหัวไก่สีสันสดใส เครื่องหน้าไม้ทองสัมฤทธิ์ โกดังเครื่องปั้นดินเผา ห้องนิทรรศการที่ 3 ตุนหวงในราชวงศ์สุยและถัง ยุครุ่งโรจน์ที่สุดของตุนหวง วัฒนธรรมถึงจุดสูงสุด ห้องนิทรรศการที่ 4 ตุนหวงจากห้าราชวงศ์ถึงราชวงศ์หมิง มุ่งเน้นไปที่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเซี่ยตะวันตก หลังจากราชวงศ์ซ่งมีความเสื่อมถอยของเส้นทางสายไหม เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของตุนหวงเริ่มเสื่อมโทรมลง ในราชวงศ์หยวน เปิดประตูสู่ภาคตะวันตกอีกครั้ง และห้องนิทรรศการที่ 5 เป็นตุนหวงในราชวงศ์ชิง บอกถึงพัฒนการตุนหวงและการค้นพบถ้ำพระสูตรในถ้ำโม่เกาคูในราชวงศ์ชิง การรวบรวมคัมภีร์ตุนหวง

เย็น บริการอาหารค่ำ(มื้อที่ 17) สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางไปยังสนามบินเมืองตุนหวง เพื่อบินเข้าเมืองเฉินตู ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2ชั่วโมง

21.20 น. ออกเดินทางสู่เมืองเฉินตู ด้วยเที่ยวบินที่ 3U 6358 ใช้เวลาบิน 2ชั่วโมง 35นาที

23.55 น. เดินทางถึงสนามบินเมืองเฉินตู รับกระเป๋าสัมภาระ จากนั้นเดินทางเข้าสู่ที่พัก

ที่พัก โรงแรมใกล้สนามบิน JOYHUB CHEER HOTEL หรือเทียบเท่า 4 ดาว

วันที่แปด 27 ก.ย.68: เฉินตู-กรุงเทพฯ

เช้า  บริการอาหารเช้า(มื้อที่ 18) หลังอาหารนำท่านเดินทางไปเดินเล่นช้อปปิ้งห้างสรรพสินค้าใกล้ที่พัก จากนั้นเดินทางสู่ภัตตาคาร

บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 19)
 
สมควรแก่เวลาเดินทางสู่สนามบิน เพื่อบินกลับประเทศไทย

14.40 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ ด้วยเที่ยวบินที่ 3U 3935 ใช้เวลาบิน 3ชั่วโมง บนเครื่องมีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการ
16.40 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

หมายเหตุ
โปรแกรมสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม

อัตราค่าบริการนี้รวม
-ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศชั้นประหยัดสายการบินเสฉวนแอร์ไลน์ ไปกลับพร้อมคณะ
-ค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศชั้นประหยัดเส้นทาง เฉินตู-หลันโจว และ ตุนหวง-เฉินตู
-ค่ารถไฟความเร็วสูงเทียนสุ่ย-จางเย่ Second Class
-ค่าโรงแรมที่พัก 7คืน ระดับ 4-5ดาว มาตรฐานประเทศจีน
-น้ำดื่มวันละ 1 ขวด
-อาหารมื้อหลักตามที่ระบุ
-ค่ารถนำเที่ยวตามรายการระบุ
-ค่าประกันอุบัติเหตุ วงเงิน 1ล้านบาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์
-ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ
-หัวหน้าทัวร์ไทยและไกด์ท้องถิ่น
-ค่าทิปไกด์และคนขับรถท้องถิ่น รวมไปถึงหัวหน้าทัวร์ไทย


อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
X ค่าพักเดี่ยวเพิ่ม
X ค่าน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินกำหนด 1 ใบไม่เกิน 20 กก.และถือขึ้นเครื่อง 7 กก.
X ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มินิบาร์ อาหารพิเศษที่สั่งเพิ่ม
X ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%และหัก ณ ที่จ่าย 3% ในกรณีต้องการใบเสร็จรับเงินเต็มรูปแบบ
X ค่าวีซ่าท่องเที่ยวจีน หากกลับมาใช้วีซ่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
X ค่าทิปคนจูงอูฐ
 
การสำรองที่นั่งและชำระเงิน
1.      มัดจำท่านละ 20,000 บาท พร้อมส่งหน้าพาสปอร์ตผู้เดินทาง
2.      ส่วนที่เหลือชำระภายในวัน 30 วันก่อนการเดินทาง