ทัวร์อชันต้า เอลโลร่า เอลิฟันตา อินเดีย มุมไบ 5 วัน 4 คืน

(0)
SKU : ทัวร์อชันต้า เอลโรล่า อินเดีย มุมไบ 5 วัน 4 คืน
ทัวร์อชันต้า เอลโลร่า เอลิฟันตา อินเดีย มุมไบ 5วัน 4คืน 5-9 ธันวาคม 2568 และ 27-31 ธันวาคม 2568
฿28,900
฿0
฿28,900
ราคาสมาชิก
 
฿0
ราคาสมาชิก
฿0

จำนวน
ทัวร์อชันต้า เอลโลร่า เอลิฟันตา อินเดีย มุมไบ 5 วัน 4 คืน

ทัวร์อชันต้า เอลโลร่า เอลิฟันตา อินเดีย มุมไบ 5วัน 4คืน
ถ้ำเอลโลรา พลังแห่งศรัทธาของ 3 ศาสนา ถ้ำอชันตา งดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก
ถ้ำเอลิฟันตา นครถ้ำแห่งท้องทะเล สักการะ พระพิฆเณศ วัดสิทธิวินายัก
เดินทางโดยสายการบินอินดิโก้
กำหนดเดินทาง: 5-9 ธันวาคม 2568 // 27-31 ธันวาคม  2568

 

อัตราค่าบริการ

ท่านละ 28,900 บาท / ท่าน (ราคานี้ยังไม่รวมตั่วเครื่องบิน)

พักเดี่ยว ท่านละ 9,000 บาท

 

รายละเอียดการเดินทาง

วันแรก  12 ก.พ. 68: กรุงเทพฯ-มุมไบ
12.30 น.  คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 10 Row W เค้าเตอร์สายการบินอินดิโก้ เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ เช็กอิน โหลดสัมภาระ

15.35 น.  ออกเดินทางสู่ นครมุมไบ ด้วยเที่ยวบินที่ 6E 1052 ใช้เวลาบิน 4ชั่วโมง 45นาที บนเครื่องมีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการ

18.50 น.  เดินทางถึง สนามบินนานาชาติ Chhatrapati S. Maharaj(T2) นครมุมไบ ประเทศอินเดีย ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ จากนั้นเดินทาง äรับประทานอาหารค่ำ (มื้อที่ 1) หลังอาหารเช็กอินเข้าที่พัก *เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศ 1 ชั่วโมง 30 นาที*

ที่พัก  โรงแรม HOTEL MIRADOR MUMBAI หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
 

วันสอง  13 ก.พ. 68: มุมไบ- ออรังกาบัต-ถ้ำเอลโลร่า - บีบี กา มักบารา - ออรังกาบัด
เช้าตรู่   นำท่านเดินทางสู่สนามบิน Chhatrapati Shivaji Maharaj International Airport (T1)  พร้อม บริการอาหารเช้า(มื้อที่ 2)แบบกล่อง เช็กอินโหลดสัมภาระ เค้าเตอร์สายการบิน Indigo

05.10 น. เดินทางสู่เมืองออรังกาบัด ด้วยเที่ยวบินที่ 6E 5202 ใช้เวลาบิน 1ชั่วโมง 5นาที
06.20 น. ถึงสนามบิน Chhatrapati Sambhaji Nagar เมืองออรังกาบัต (Aurangabad) เป็นเมืองในรัฐ Maharashtra มีประชากรมากเป็นอับดับห้า เป็นศูนย์กลางการผลิตสิ่งทอผ้าฝ้ายและผ้าไหมศิลปะที่สำคัญ มีสถานบันการศึกษาที่โดดเด่นหลายแห่ง เป็นที่ตั้งแหล่งมรดกโลกถึง 2 แห่งคือ ถ้ำอชันต้าและถ้ำเอลโลรามาตั้งแต่ปี 1983 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เอลโลร่า(Ellora Cave) ระยะทาง 25 กม. ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที (ปิดวันอังคาร) มรดกโลกแห่งที่ 4 เป็นอีกหนึ่งกลุ่มถ้ำที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 1983 ตั้งอยู่ในเทือกเขาจรนันทรี สร้างในช่วงพุทธศตวรรษที่ 12-15 โดยการเจาะเข้าไปในภูเขาเช่นเดียวกับกลุ่มถ้ำอชันต้า เรียงตัวจากเหนือไปใต้เป็นระยะทางรวม 2 กม. เกิดจากการแกะสลักภูเขาหินทั้งลูกด้วยฝีมือสาวก 3 ศาสนา คือ ฮินดู พุทธและเชน มีทั้งหมด 34 ถ้ำ แบ่งออกเป็น ถ้ำทางพุทธศาสนา 12 ถ้ำ เทวลาลัยของฮินดู 17 ถ้ำ และวิหารถ้ำลักธิของเชน 5 ถ้ำ นำท่านกราบพระพุทธรูปที่มีอายุมากกว่า 1200 ปี ภายในถ้ำ นอกจากนี้ยังมีภาพแกะสลักวิจิตรงดงามมากมาย เช่น องค์พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ พระพิฆเนศ ช้างเอราวัณ และนางอัปสร ถ้ำที่ 16 Kailasanath Temple ถือเป็นถ้ำที่อลังการที่สุด มีศิวลึงค์เป็นจุดศูนย์กลาง

กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 3)
 
สมควรแก่เวลาเดินทางชม บีบี กา มักบารา (BiBiKa Maqbara) หรือ มินิ ทัชมาฮาล สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรัก โดยพระโอรสของออรังเซล รำลึกถึงพระมารดา พระนาง บีกัมราเบีย อุเด ดาราณี สถาปัตยกรรมคล้ายกับทัชมาฮาล จากนั้นให้อิสระท่านช้อปปิ้ง เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย เช่น เครื่องทองเหลือง ผ้าปักลายโบราณจำลองมาจากผนังถ้ำ เครื่องประดับลวดลายแปลกตา

เย็น  บริการอาหารค่ำ(มื้อที่ 4)

ที่พัก  โรงแรม HOTEL LEMON TREE AURANGABAD  หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

 

วันสาม  14 ก.พ. 68: ออรังกาบัด-ถ้ำอชันต้า-ออรังกาบัด
เช้า  บริการอาหารเช้า(มื้อที่ 5)
 
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ ถ้ำอชันต้า(Ajanta Cave)  ระยะทาง 110 กม. ใช้เวลาเดินทางราวๆ 2ชั่วโมงครึ่ง มรดกโลกแห่งที่ 3 ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองออรังกาบัดไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 110 กม. เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอินเดีย (ปิดทุกวันจันทร์) แบ่งออกเป็น 2 ยุค โดยยุคแรกประมาณศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตศักราชได้ถูกสร้างออกมาในรูปลักษณะของ วิหาร มีวัตถุประสงค์เพื่อปฏิบัติสมาธิของเหล่าพระภิกษุ และ เจดีย์ เพื่ออุทิศแด่องค์พระพุทธเจ้า มีหลักฐานเป็นภาพเขียนสีน้ำบนผนังถ่ายทอดเรื่องราวชาดก เข้าใจถึงพุทธประวัติ เพราะมีการใช้ดอกบัวเป็นสัญลักษณ์แทนพระองค์ ส่วนในยุคที่สองประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 5-6 มีการแกะสลักพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์หลายพระองค์บนเจดีย์และบนผนังวิหารในความเชื่อตามแบบชาวมหายาน ซึ่งถ้ำอชันต้านั้นเป็นถ้ำที่เจาะเป็นปราสาทมีขนาดใหญ่ จนจัดให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลกที่มีอายุกว่า 2000ปี ภายในมีถ้ำมหึมาอีกกว่า 30 ถ้ำ ผนังถ้ำก็มีภาพจิตรกรรมอายุนับ 1,200ปี

กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 6)
 
นำท่านเข้าชมสถาปัตยกรรมของถ้ำอชันต้า โดยถ้ำเบอร์ 2 เป็นถ้ำฝ่ายมหายาน มีชื่อเสียงด้านภาพวาด ส่วนใหญ่เป็นภาพดอกบัว ถ้ำเบอร์ 3 เป็นถ้ำเล็ก ถ้ำเบอร์ 4 มีความกว้างใหญ่ที่สุดในบรรดาถ้ำทั้งหมด ด้านหน้ามีรูปแกะสลักพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และพระพุทธรูปปางประทับยืน ถ้ำเบอร์ 5 ยังสร้างไม่เสร็จ ถ้ำเบอร์ 6 มีพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ที่พระสรีระต่างจากถ้ำอื่น เป็นหินชนิดเดียวกันกับถ้ำรอบๆองค์พระพุทธรูป มีภาพวาดฝาผนังและเพดาน ด้านซ้ายมีตัวอักษรเขียนว่า Musical Pillars เมื่อใช้ส้นมือกระแทกหรือเคาะกลางเสาจะมีเสียงดังกังวาน ถ้ำเบอร์ 7 ด้านในมีพระพุทธรูปแกะสลักที่ผนังถ้ำ คล้ายครั้งทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ ต่างจากเบอร์ 2 ที่เป็นภาพวาด ตรงกลางประดิษฐานพระประธานรายล้อมด้วยพระพุทธรูปปางประทับยืนและเหล่าเทพเทวดา ถ้ำเบอร์ 9-10 เป็นถ้ำเถรวาท ภายในเป็นห้องโถงสูงยาว มีช่องรับแสงด้านบน ถ้ำเบอร์ 11-12-13 ใช้เป็นที่พัก แต่ถ้ำเบอร์ 12 มีองค์พระประธาน ถ้ำเบอร์ 14 ถ้ำเล็กๆ นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันมาใช้เป็นสำนักงาน ถ้ำเบอร์ 16 เป็นฝ่ายมหายาน มีภาพพระนางชนบทกัลยาณี แต่งงานกับพระนันทะกำลังรอพระสวามีกลับมาด้วยความโศกเศร้า หลังจากที่พระพุทธองค์พาพระนันทะไปบวช จนสมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับเมืองออรังกาบัดในเส้นทางเดิม

เย็น บริการอาหารค่ำ(มื้อที่ 7)

ที่พัก  โรงแรม HOTEL LEMON TREE AURANGABAD หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

 

วันสี่  15 ก.พ. 68: ออรังกาบัด-มุมไบ- Gate Way of India Elephanta Cave Victoria Terminusวัดสิทธิวินายัก
เช้าตรู่  ออกเดินทางไปยังสนามบินออรังกาบัด พร้อมäบริการอาหารเช้า(มื้อที่ 8)แบบกล่อง เช็กอินโหลดสัมภาระ เค้าเตอร์สายการบิน Indigo

06.50 น.  เหินฟ้าสู่เมืองมุมไบ ด้วยเที่ยวบินที่ 6E 5223 ใช้เวลาบิน 1ชั่วโมง 5นาที

07.55 น.  เดินทาง สนามบินนครมุมไบ จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง ประตูสู่อินเดีย Gate Way of India สัญลักษณ์ของเมืองมุมไบ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลอาหรับ สร้างเพื่อเฉลิมฉลองการเสด็จมาเยือนเมืองมุมไบของพระเจ้าจอร์จที่ 5 และสมเด็จพระราชินีแมรี่ ในปี ค.ศ. 1911 ศิลปะผสมผสานท้องถิ่นกับมุสลิมรัฐคุชราต ประตูสูง 26 เมตร ความสำคัญอีกอย่างคือ เมื่ออินเดียได้รับเอกราช ทหารของอังกฤษหน่วยสุดท้ายได้เดินทางออกจากอินเดียที่ประตูแห่งนี้ เมื่อ ค.ศ. 1948 ปัจจุบันใช้เป็นสัญลักษณ์ต้อนรับรัฐมนตรีใหม่ของนครมุมไบ รวมถึงแขกบ้านแขกเมือง แล้วเดินทางสู่ท่าเรือนำท่านล่องเรือท่ามกลางมหาสมุทรอินเดีย สู่ เกาะเอเลฟันตา ห่างจากฝั่งราว 10 กม. ใช้เวลานั่งเรือ 1 ชั่วโมง ไปชม ถ้ำเอเลฟันตา (Elephanta Cave) สร้างโดยการเจาะภูเขาหิน มี 7 ถ้ำ พุทธสถาน 2 ถ้ำ และเทวสถานฮินดูอีก 5 ถ้ำ  ด้านในแกะสลักภาพเทพเจ้า ศิลปะราวศตวรรษที่ 5-8 ถ้ำหลักจะเป็นเทวาลัยในศาสนาฮินดู ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1987 ภายในมีเสาค้ำยัน 24 ต้น จำหลักลวดลายหัวเสาอย่างสวยงาม มีคูหาประดิษฐานศิวลึงค์ อันเป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระศิวะโดยมีทวารบาลจำหลักทั้ง 4 ด้านของผนังรวม 8 องค์ ชมภาพสลักมเหศวรมูรติ เป็นการรวมภาคทั้งสามของพระศิวะเข้าด้วยกัน ในภาคของผู้สร้าง(จันทรเศขรมูรติ) ผู้รักษา(อุมาภควดี)และผู้ทำลาย(ไภรวะมูรติ) นอกจากนี้ยังมีภาพแกะสลักเทพในศาสนาฮินดูที่สวยงาม เช่น ภาพพิธีสยุมพรพระศิวะและพระนางปารตี, ภาพพระศิวะปราบอันธกาสูร ภาพพระศิวะในภาคที่ครึ่งหนึ่งเป็นบุรุษครึ่งหนึ่งเป็นสตรี สมควรแก่เวลาล่องเรือกลับนครมุมไบ

กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 9)

บ่าย  นำท่านเดินทางไปชม สถานีรถไฟฉัตรปตีศิวาจี หรือเดิมชื่อ Victoria Terminus เป็นสถานีรถไฟเก่าแก่และเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ออกแบบโดยวิศวกรชาวอังกฤษ เฟรเดอริก วิลเลียม สตีเวนส์ เริ่มก่อสร้างในปี 1878 แล้วเสร็จในปี 1887 ได้ทำการเปลี่ยนชื่อจาก Victoria Terminus เป็น "Chhatrapati Shivaji Terminus" ในเดือนมีนาคม ปี 1996 ตามชื่อกษัตริย์นักรบแห่งศตวรรษที่ 17 Shivaji และฉัตรปติองค์แรกของจักรวรรดิมารัทธาผู้ก่อตั้งรัฐในภาษามราฐีตะวันตก และในปี 2017 ได้เปลี่ยนชื่อสถานีอีกครั้งเป็น "Chhatrapati Shivaji Maharaj Terminus" แปลว่ากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นสถานีปลายทางมี 18 ชานชาลา จากนั้นนำท่านนมัสการพระพิฆเนศที่ วัดสิทธิวินายัก(Siddhivinayak Temple) เป็นวัดเก่าแก่ในศาสนาฮินดู สร้างตั้งแต่ปี 1801 ภายในประดิษฐานองค์ พระพิฆเนศ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ตั้งอยู่ในมณฑปศักดิ์สิทธิ์ ให้อิสระท่านได้ขอพร แนะนำให้ท่านกระซิบคำอธิษฐานต่อรูปปั้นหนู 2 ตน ที่ถือเป็นพระสหายขององค์ท่านหรือจะเลือกบูชาเครื่องราง รูปบูชาของท่าน ตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลาให้อิสระท่านได้ช้อปปิ้งเลือกซื้อของฝากของที่ระลึก

เย็น  บริการอาหารค่ำ(มื้อที่ 10)
ที่พัก  โรงแรม HOTEL MIRADOR MUMBAI หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

วันที่ห้า  16 ก.พ. 68:  มุมไบ - กรุงเทพฯ
เช้าตรู่  นำท่านเดินทางสู่สนามบิน Chhatrapati Shivaji Maharaj International Airport (T2) พร้อมäบริการอาหารเช้า(มื้อที่ 11)แบบกล่อง เช็กอินโหลดสัมภาระ เค้าเตอร์สายการบิน Indigo

08.35 น.  เดินทางกลับประเทศไทย ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ 6E 1051 ใช้เวลาบิน 4ชั่วโมง 25นาที

14.30 น.  เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

หมายเหตุ  โปรแกรมสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม 

 

อัตราค่าบริการนี้รวม
- โรงแรมที่พัก ระดับ 4 ดาว มาตรฐานประเทศอินเดีย พักห้องละ 2 ท่าน
- อาหารทุกมื้อตามระบุ
- ไกด์ท้องถิ่น พูดภาษาอังกฤษ
- หัวหน้าทัวร์ไทย
- ยานพาหนะ รับ-ส่ง ตามรายการท่องเที่ยว
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
- น้ำดื่มวันละ 1 ขวด
- ค่าประกันภัยอุบัติการเดินทาง เงื่อนไขตามกรมธรรม์ ลูกค้าสามารถเลือกประกันสุขภาพเพิ่มเติมได้
- ค่าทิปไกด์ คนขับรถท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์ไทย

 
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
X ค่าตั๋วเครื่องบินในทุกเส้นทาง
X ค่าวีซ่าท่องเที่ยวอินเดีย ยื่นออนไลน์ *หากมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม*
X ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากที่ระบุด้านบน
X ค่าสัมภาระเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
X ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ในกรณีต้องการใบเสร็จเต็มรูปแบบ

การสำรองที่นั่งและชำระเงิน
1.      มัดจำท่านละ 10,000 บาท พร้อมส่งหน้าพาสปอร์ต
2.      ส่วนที่เหลือชำระก่อนการเดินทาง 30 วัน หรือชำระครั้งเดียวหมดที่


คะแนนและรีวิวสินค้า
ยังไม่มีคะแนนและรีวิว เป็นคนแรกที่แสดงความคิดเห็น
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy