ทัวร์เลห์ ลาดักห์ อินเดีย 9 วัน 8 คืน

ทัวร์เลห์ ลาดักห์ อินเดีย เดลี เลห์ ลาดักห์ ทะเลสาบปันกอง นูบร้าวัลเล่ย์
ชมดอก Apricot Blossom หมู่บ้าน Turtuk ลามะยูรู
โดยสายการบินแอร์อินเดีย
พักเดลี 1 คืน / เลห์ 4คืน/นูบร้า 2คืน/ปันกองหรือตังเซ่ 1คืน
กำหนดเดินทาง: 12-20 เมษายน 2568

ลักษณะทริป **โปรดอ่านก่อนตัดสินใจเดินทาง**
-  เหมาะสำหรับผู้รักธรรมชาติ เที่ยวแนวธรรมชาติ ไม่ชอบความเจริญ ตึกสูง และความทันสมัย
-  แอนแวนเจอร์ระดับประถม เดินไม่เยอะ เน้น นั่งรถเที่ยว จอดถ่ายรูปตามจุดต่างๆที่สวยงาม
-  เหมาะสำหรับท่านที่ชอบถ่ายรูปทั้ง Landscape และ Portrait
-  ที่พักอาจไม่เริดหรู ความสะดวกอาจมีไม่มาก ไม่มีแอร์ ไม่มีฮีตเตอร์ ไฟตกบ่อย ที่พักน้ำอุ่นอาจมีบ้างไม่มีบ้าง
-  อาหารอินเดียจะมีเครื่องเทศ ค่อนข้างจัดจ้าน แต่เรามีอาหารไทยไปทำเสริมให้
-  เป็นเมืองที่มีทั้งศาสนาพุทธและอิสลาม แต่ผู้คนเป็นมิตรและอัธยาศัยดี มีน้ำใจ
-  ผู้คนใช้ชีวิตแบบสโลวไลฟ์ ตัดขาดจากเทคโลยีและโลกภายนอก บางวันมีอินเตอร์เน็ต บางวันก็ไม่มี หรือวันที่มีอินเตอร์เน็ต สัญญาณก็ไม่ค่อยเสถียรเท่าใดนัก และไม่สามารถเปิดโรมมิ่งจากเมืองไทยไปใช้ได้ในแคว้นแจมมูและแคชเมียร์
-  สถานที่ท่องเที่ยวโดยส่วนมากเป็นวัด ผสมกับความงามทางธรรมชาติ ทั้งภูเขา หุบเขา และแม่น้ำ
-  ตื่นเช้า กลับดึก นั่งรถนานเป็นบางวัน
-  อุณหภูมิ ต่ำสุด (-5) องศาเซลเซียส  สูงสุด 12 องศาเซลเซียส อากาศหนาว อาจมีฝนบ้าง
-  สิ่งสำคัญ!!! ไม่เหมาะกับผู้ที่สุขภาพไม่แข็งแรง มีโรคประจำตัว เช่น ความดันต่ำ ความดันสูง โรคหัวใจ ภูมิแพ้ หรือหอบหืด เป็นต้น ผู้ที่มีโรคประจำตัวดังกล่าว โปรดปรึกษาแพทย์ประจำตัวเพื่อผลประโยชน์แก่ตัวลูกค้าเอง

อัตราค่าบริการ

ท่านละ 30,900 บาท / ท่าน  (ยังไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)

พักเดี่ยว 9,500 บาท / ท่าน

โปรแกรมการเดินทาง

วันที่หนึ่ง  12 เม.ย. 68: กรุงเทพฯ - เดลี - Red Fort - Chandni Chowk Market -Qutab Minar
05.30 น.  คณะเดินทางพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 6 Row M เคาน์เตอร์สายการบิน AIR INDIA   
 
08.40 น.  ออกเดินทางสู่ เมืองเดลลี เที่ยวบินที่ AI 333  (ใช้เวลาบิน 4 ชั่วโมง 25 นาที บนเครื่องบินมีäอาหารและเครื่องดื่มบริการ)
 
11.35 น.  เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติ อินทิราคานธีร์ เมืองเดลี ตามเวลาท้องถิ่น (เวลาที่อินเดียช้ากว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง 30นาที) นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าสัมภาระ จากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถปรับอากาศสู่ภัตตาคาร บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 1)
 
บ่าย  นำท่านเที่ยวชม Red Fort ป้อมแดงสัญลักษณ์แห่งอำนาจและความงาม ศูนย์กลางของชาห์จาฮานาบัด สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1639 ชาห์จาฮันได้ย้ายราชสำนักจากอักรามายังเดลีและสั่งให้สร้างป้อมแดงขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของจักรพรรดิโมกุลเกือบ 200ปี กำแพงหินทรายสีแดงสูงตระหง่าน แหล่งมรดกโลกได้รับการขึ้นทะเบียนปี 2007 สถาปัตยกรรมโมกุลผสานอิทธิพลเปอร์เซีย ติมูริดและฮินดูอย่างลงตัว จากนั้นเดินเลือกซื้อสินค้าที่ตลาดท้องถิ่น Chandni Chowk Market สมควรแก่เวลาเดินทางไปชม Qutab Minar หรือหอคอยแห่งชัยชนะ สัญลักษณ์ของเดลี แหล่งมรดกโลก ขึ้นทะเบียนในปี 1993 หอคอยหินทรายสีแดงของ Qutb Minar สูง 72.5 เมตร ถือเป็นหอคอยก่ออิฐที่สูงที่สุดในอินเดีย สร้างในศตวรรษที่ 12 สร้างโดย Qutb-ud-din Aibak ผู้ก่อตั้งรัฐสุลต่านเดลี มีร่องหยักสลับกันเป็นมุมฉากและโค้งมน 
 
เย็น  บริการอาหารค่ำ (มื้อที่ 2) หลังอาหารนำท่านเช็กอินเข้าที่พักอิสระพักผ่อน เตรียมบินเข้าเลห์ในวันรุ่งขึ้น
 
ที่พัก  โรงแรม HOTEL LEMON TREE  หรือเทียบเท่า
 

วันที่สอง  13 เม.ย. 68: เดลี - เลห์ - พระราชวังเลห์ - Tsemo Gompa
 
 04.00 น.  ตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อนำท่านเดินทางสู่สนามบิน พร้อมäบริการอาหารเช้าแบบกล่อง(มื้อที่ 3) เช็กอินเค้าเตอร์สายการบินแอร์อินเดีย 
 
06.40 น.  เหิรฟ้าสู่เมืองเลห์  โดยสายการบินแอร์อินเดีย เที่ยวบิน  AI 445 ใช้เวลาบิน 1 ชม. 30 นาที  
 
08.10 น.  เมื่อถึง สนามบินเมืองเลห์ รับกระเป๋าสัมภาระ จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าพักที่โรงแรม ให้ท่านได้พักผ่อนเพื่อปรับสภาพอากาศที่เบาบาง **เนื่องจากเลห์อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 3,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล หากอยู่ที่สูงแนะนำให้ดื่มน้ำบ่อยๆ ค่ะ เพราะอากาศค่อนข้างแห้งและเบาบาง ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำได้ง่ายและจำนวนมาก  ซึ่งทางทีมงานมียาป้องกันโรคแพ้ความสูงให้รับประทานก่อนเดินทางมายังเมืองเลห์** 
 
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรม (มื้อที่ 4)
 
16.30 น.  นำท่านเดินทางไปถ่ายภาพที่ พระราชวังเลห์  (Leh Palace)  โบราณสถานบนเนินเขาที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากจัตุรัสกลางเมืองเลห์สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 เคยเป็นพระตำหนักที่ประทับของราชวงศ์แห่งลาดัก จากนั้นเดินทางต่อไปยัง วัด Tsemo  Gompa เป็นวัดพุทธในเขตเลห์ ลาดัค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ Tashi Namgyal มีรูปปั้นพระศรีอริยเมตไตรยทองคำสูง 3ชั้น มีคัมภีร์ต้นฉบับโบราณและภาพจิตรกรรมฝาผนัง อยู่ใกล้กับ ป้อมปราการ Tsemo
 
19.00 น.  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 5) หลังอาหารอิสระพักผ่อน
 
ที่พัก  โรงแรม HOTEL YAK TAIL / AMANTI LADAKH / CHANGSEM RESIDENCY ในเมืองเลห์หรือเทียบเท่า
 

วันที่สาม  14 เม.ย. 68: เลห์-วัดเฮมิส - วัดทิกเซ่ - พระราชวังเชย์
  
 07.00 น.  อรุณสวัสดิ์ยามเช้า รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 4) 
 
08.00 น.  ออกเดินทางไปยัง วัดเฮมิส (Hemis Gompa)  เป็นวัดที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากวัดติ๊กเชย์ เป็นวัดหลักของนิกายนิงมาปะ หรือนิกายหมวกแดงที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในแคว้นลาดัก และยังมีรูปปั้นองค์ปัทมาสมภพที่ใหญ่ที่สุดตั้งอยู่ในวัดแห่งนี้ด้วย
 
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 5)
 
บ่าย  นำท่านเที่ยวชม วัดทิกเซ่ (Thiksey Gompa) เป็นวัดที่ตั้งโดดเด่นอยู่บนเนินเขามีภูมิทัศน์ที่สวยงาม  วัดนี้ก่อตั้งเมื่อศตวรรษที่ 15 เป็นวัดในนิกายเกลุกปะ หรือ นิกายหมวกเหลือง (นิกายเดียวกับดาไลลามะองค์ปัจจุบัน) ที่วัดยังมีพระศรีอาริยเมตไตรย  ซึ่งถือเป็นมาสเตอร์พีซฝีมือช่างศิลป์ ใช้เวลาสร้างถึง 2 ปีด้วยกัน   จากนั้นเดินทางต่อไปยัง พระราชวังเชย์ (Shey Palace) เมืองเชเคยเป็นเมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุดของลาดัก  ในช่วงก่อนศตวรรษที่ 15 เป็นพระราชวังฤดูร้อนมีอายุราว 500 ปีของกษัตริย์ผู้เคยยิ่งใหญ่ในอดีต พระราชวังหลวงและพระอารามสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นที่ประทับของกษัตริย์ และประดิษฐานพระพุทธรูปทองแดงที่สูงใหญ่ขนาดตึกสามชั้น สร้างโดยกษัตริย์  Deldan Namgyal  และโปรดเกล้าให้สร้างสถูป Numgyal Chorten หรือสถูปแห่งชัยชนะ (Victory Stupa) ที่ด้านบนของสถูปสร้างด้วยทองคำบริสุทธิ์ สมควรแก่เวลาเดินทางกลับตัวเมืองเลห์
 
20.00 น.  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 6) หลังอาหารอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย 
 
ที่พัก  โรงแรม HOTEL YAK TAIL / AMANTI LADAKH / CHANGSEM RESIDENCY ในเมืองเลห์ หรือเทียบเท่า
 
หมายเหตุ  คืนนี้จัดกระเป๋าขนาดเล็กสำหรับเดินทางไปพักที่นูบร้าวัลเล่ย์ 2 คืนและปันกอง 1 คืน โดยเราจะฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่โรงแรม
 

วันที่สี่  15 เม.ย. 68: เลห์ - ถนนที่สูงที่สุดในโลก Khardung La Pass - นูบร้าวัลเล่ย์ วัดดิสกิต- ขี่อูฐที่ฮุนเดอร์
 
 06.00 น.  อรุณสวัสดิ์ยามเช้า äรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร (มื้อที่ 7) 

หลังอาหารออกเดินทางสู่ นูบร้าวัลเล่ย์  ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง โดยวันนี้เราจะใช้เส้นทางถนนที่สูงที่สุดในโลก  Khardung La Pass ที่ระดับความสูงราว 5,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล  เป็นเส้นทางที่สวยมากค่ะ ณ จุดที่สูงที่สุดแห่งนี้เราสามารถมองเห็นแนวเทือกเขาคาราโครัมของปากีสถานได้เลยค่ะ และที่จุดสูงสุดนี้เราจะไม่ให้คณะอยู่นานนัก เพราะอากาศที่เบาบางอาจทำให้เราแพ้ความสูงและไม่สบายได้ค่ะ
 
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 8)  หลังอาหารเช็กอินเข้าสู่ที่พัก อิสระพักผ่อน
 
16.00 น.  นำท่านออกไปเที่ยวชมวัดดิสกิต (Diskit Monastery) เป็นวัดพุทธในย่านดิสกิต นิกายเกลุกปะ ก่อตั้งโดย Changzem Tserab Zangpo ในศตวรรษที่ 14 เป็นวัดที่อยู่บนเขาเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามเช่นกันค่ะ  จากนั้นนำท่านไปขี่อูฐ ที่ทะเลทราย (ค่าขี่อูฐไม่รวมในค่าทัวร์ 15 นาที 350 รูปี) ที่นูบร้าวัลเล่ย์เป็นแหล่งปลูกแอปเปิ้ลและแอปปริคอท มากมาย  และมีอากาศไม่หนาวมากนักสบายๆ ในความสูงระดับประมาณสองพันกว่าเมตร ดังนั้นจึงเป็นเมืองที่สบายๆคล้ายกับบ้านเรา
 
20.00 น.  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 9) หลังอาหารอิสระพักผ่อน
 
ที่พัก  โรงแรม GRAND NUBRA HOTEL หรือเทียบเท่า
 

วันที่ห้า 16 เม.ย. 68: นูบร้าวัลเล่ย์ Turtuk Village- นูบร้าวัลเล่ย์
 เช้า  อรุณสวัสดิ์ยามเช้า พร้อม รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร (มื้อที่ 10) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้าน Turtuk Village ใช้เวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมง ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆอยู่ปลายสุดของหุบเขานูบร้าวัลเล่ย์ ล้อมรอบด้วยแม่น้ำ Shyok และยอดเขาสูงของเทือกเขาคาราโครัม เป็นหมู่บ้านของชาวบัลติ นับถือศาสนาอิสลาม หมู่บ้านนี้ห่างจากชายแดนปากีสถานเพียง 6 กม. เท่านั้น เป็นแหล่งปลูกข้าวบาร์เล่ย์ บัควีท แอพพริคอทและวอลนัทอีกด้วย
 
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 11)
 
บ่าย  หลังอาหารอิสระถ่ายภาพ เดินเล่นถ่ายภาพดอกแอพพริคอท ที่กำลังบานสะพรั่งสีชมพูสดใสไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ถ่ายภาพบรรยากาศวิถีชีวิตความเป็นอยู่ จนสมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับที่พักยังนูบร้าวัลเล่ย์
 
เย็น  รับประทานอาหารค่ำที่ห้องอาหาร (มื้อที่ 12)
 
ที่พัก  โรงแรม GRAND NUBRA HOTEL หรือเทียบเท่า
 

วันที่หก 17 เม.ย. 68: นูบร้าวัลเล่ย์ ทะเลสาบปันกอง via Shayok
 
 เช้า  อรุณสวัสดิ์ยามเช้า พร้อมäรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร (มื้อที่ 13) หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ทะเลสาบปันกอง โดยใช้เส้นทางเลาะเลียบผ่านแม่น้ำ Shayok ใช้เวลาเดินทาง 5-6 ชั่วโมง ขับผ่านหมู่บ้าน Agham เลี้ยวซ้ายไปยังหมู่บ้าน Shayok ถนนจะราบเรียบไปจนถึงหมู่บ้าน Durbuk จากนั้นก็จะออกไปยังถนนเลห์-ปันกอง มุ่งหน้าสู่หมู่บ้านตังเซ่ (Tangtse)
 
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 14)
 
บ่าย  หลังอาหารนำท่านออกเดินทางต่อไปยัง ทะเลสาบปันกอง ทะเลสาบน้ำเค็มที่อยู่ในระดับความสูงราว 4,400 เมตรจากระดับน้ำทะเลเป็นทะเลสาบที่มีความสวยงามเปลี่ยนสีไปเรื่อยตามสภาพแสงค่ะ  เช่น สีฟ้าอ่อน สีฟ้าเข้ม  เพลิดเพลินกับวิวสองข้างทางเปิดโอกาสให้จอดถ่ายรูปเป็นระยะๆ ค่ะ จากนั้นเดินทางเช็กอินเข้าสู่ที่พัก อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
 
เย็น  รับประทานอาหารค่ำที่ห้องอาหาร (มื้อที่ 15)
 
ที่พัก  ปันกอง PANGONG HOUSE / VISTA RESORT หรือเทียบเท่า *มีห้องน้ำในตัว*
 

วันที่เจ็ด  18 เม.ย. 68: ทะเลสาบปันกอง - Chang La Pass-เลห์ - เมนบาร์ซาร์ เจดีย์สันติภาพ
 
07.00 น.  อรุณสวัสดิ์ยามเช้า อิสระกับการถ่ายภาพ พร้อม äรับประทานอาหารที่ห้องอาหาร (มื้อที่ 16)
 
08.00 น.  หลังอาหารออกเดินทางกลับตัวเมืองเลห์ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง  การเดินทางในวันนี้จะผ่านจุดที่สูงที่สุดของถนนสายนี้คือประมาณ 5,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล เรียกจุดนี้ว่า CHANG LA PASS เราจะจอดให้ท่านได้ถ่ายรูปสักครู่ ไม่ควรอยู่นานเกินไปเพราะจะทำให้เราไม่สบายได้ 
 
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 17) 
 
16.00 น.  ให้อิสระช็อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าของฝาก ของที่ระลึก ที่ถนนเมนบาร์ซาร์ สมควรแก่เวลาเดินทางสู่ เจดีย์สันติภาพ (Shanti Stupa)  ชมพระอาทิตย์ตกดินเจดีย์สันติภาพตั้งอยู่บนเขาเป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิวเมืองเลห์ในมุมสูงได้อย่างโรแมนติกและงดงามมากค่ะ เจดีย์นี้สร้างโดยญี่ปุ่นเพื่อประกาศพระศาสนาและจรรโลงสันติภาพ
 
19.30 น.  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 18)
 
ที่พัก  โรงแรม HOTEL YAK TAIL / AMANTI LADAKH / CHANGSEM RESIDENCY ในเมืองเลห์ หรือเทียบเท่า
 

วันที่แปด  19 เม.ย. 68: เลห์ - Basgo Castle Viewpoint - Moonland - ลามะยูรู - เลห์ 
 
07.00 น.  อรุณสวัสดิ์ยามเช้า  รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร (มื้อที่ 19)
 
08.00 น.  ออกเดินทางสู่หมู่บ้านลามะยูรู ระหว่างทางแวะถ่ายรูปที่ Sangam Viewpoint จุดที่แม่น้ำสองสายมาบรรจบกันระหว่างแม่น้ำสินธุและแม่น้ำซันสการ์  ออกเดินทางกันต่อแวะถ่ายรูปจุดชมวิว พระราชวังบาสโก แล้วออกเดินทางกันต่อผ่านเมืองคาลสี (Khaltsi) หยุดทำการตรวจพาสปอร์ต จากนั้นแวะถ่ายรูป Moon Land อันเกิดจากกระแสคลื่นลมพัดพา การพังทลายที่ไม่สม่ำเสมอกันของหน้าดิน ที่เกิดจากการกัดกร่อนของหิมะละลาย ทำให้ภูเขาเป็นรูปร่างขรุขระ เป็นหลุมบ้าง คล้ายกับผิวของดวงจันทร์ (Moon Land)
 
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 20) 
 
บ่าย  นำท่านเข้าชม วัดลามะยูรู (Lamayuru Gompa) ตั้งอยู่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 3,390 เมตร ห่างจากเลห์ประมาณกิโลเมตรที่ 125 เป็นวัดที่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บนยอดเขาหินทราย ดูแปลกตา มีอีกชื่อหนึ่งว่า ยุงตรุง ทาปาลิง กอมป้า (Yungdrung Tharpaling Gompa) ให้อิสระถ่ายรูปตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลาเดินทางกลับตัวเมืองเลห์
 
20.00 น.  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 21) หลังอาหารอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย  
 
ที่พัก  โรงแรม HOTEL YAK TAIL / AMANTI LADAKH / CHANGSEM RESIDENCY ในเมืองเลห์ หรือเทียบเท่า
 
วันที่เก้า  20 เม.ย. 68: เลห์ - เดลี กรุงเทพฯ
 
03.30 น.  ตื่นแต่เช้าตรู่  อำลาเมืองเลห์และเดินทางสู่สนามบินเลห์ พร้อมäรับประทานอาหารเช้าแบบกล่อง (มื้อที่ 22) เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
 
12.00 น.  เหินฟ้ากลับเดลี โดยสายการบินแอร์อินเดีย เที่ยวบินที่  AI 446 ใช้เวลาบิน 1 ชม. 25 นาที  
 
13.25 น.  เดินทางถึงสนามบินเดลี จากนั้นผ่านตม. รอต่อเครื่องกลับประเทศไทย
 
16.00 น.  เหินฟ้ากลับกรุงเทพฯ  โดยสายการบินแอร์อินเดีย เที่ยวบินที่ AI 304 ใช้เวลาบิน 4h
 
21.30 น.  ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
 
หมายเหตุ : โปรแกรมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมและความปลอดภัย  

˜โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้รักธรรมชาติ

˜โปรแกรมนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคหัวใจ,ความดัน,หอบหืด,ภูมิแพ้ ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนการเดินทาง

˜รับจัดกรุ๊ปส่วนตัว กำหนดวันเดินทางเองได้

อัตราค่าบริการนี้รวม
- ค่าโรงแรมที่พัก  พักห้องละ 2 ท่าน
- ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุ / น้ำดื่มวันละ 1 ขวด 
- ค่ารถ Tempo Traveler
-ไกด์ท้องถิ่นพูดภาษาอังกฤษ
-หัวหน้าทัวร์ไทย
-ค่าประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทางและสุขภาพ วงเงิน 2,000,000 บาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
X ค่าใช้จ่ายส่วนตัว  เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าบริการซักรีด เป็นต้น
X ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ
X ค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ
X ค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  ค่ามินิบาร์  ค่าเครื่องดื่มนอกเหนือรายการ
X ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นและพนักงานขับรถ, พนักงานบริการ 50 USD/ลูกค้าหนึ่งท่าน
X ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย 900 บาท/ลูกค้าหนึ่งท่าน
X ค่าธรรมเนียมน้ำมันของสายการบิน (ถ้ามี)
X ค่าทำเอกสารผู้ถือต่างด้าว
X ค่าวีซ่าที่มีค่าธรรมเนียมแพงกว่าหนังสือเดินทางไทย
X ค่าน้ำหนักเกินพิกัดที่สายการบินกำหนด
X ค่ากิจกรรมต่างๆที่นอกเหนือจากโปรแกรมระบุ  เช่น ขี่ม้า, อูฐ, สกี, เลื่อน ฯลฯ
X ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และหัก ณ ที่จ่าย 3% กรณีออกใบเสร็จเต็มรูปแบบ
X ค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศอินเดีย หากมีการเรียกเก็บ

การจองทริปและชำระเงิน
1.     ผู้สนใจ โอนเงินมัดจำ ท่านละ  15,000 บาท พร้อมส่งสำเนาพาสปอร์ต
2.     ฝากซื้อตั๋ว ชำระค่าตั๋ว 100%
3.     ส่วนที่เหลือชำระภายในวันที่ 30 วันก่อนเดินทาง