** เสียดายช่วงที่เราไปสิกขิม เกิดดินถล่มระหว่างทางไปทะเลสาบชางกู่ จึงไม่ได้มีรูปทะเลสาบมาให้ชมกันคะ

ทะเลสาบชางกู่ (Tsomgo Lake)  เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของสิกขิม มีลักษณะคล้ายรูปไข่ยาว 1 กิโลเมตร ลึก 15 เมตร เป็นทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูและชาวพุทธ ในช่วงหน้าหนาวน้ำจะกลายเป็นน้ำแข็ง และละลายในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม รอบๆจะมีกุหลาบพันธ์ปี ดอกไอริส และดอกป็อปปี้ รวมถึงสัตว์ป่าหายากเช่น แพนด้าแดง เป็ด Brahmini และนกอพยพต่างๆ รวมถึง แย็ก (Yak หรือจามรี)  

เมืองลาเชน (Lachen) อยู่ห่างจากกังต็อกประมาณ 123 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง อยู่บนความสูง 2,850 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นอีกเมืองที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นเมืองท่องเที่ยว มีสถานที่ท่องเที่ยวเช่น จุดชมวิวเทือกเขาหิมาลัย หรือ หุบเขาชอปตา (Chopta Valley) ซึ่งอยู่ทางเหนือของสิกขิม อยู่ความสูง 4,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล เต็มไปด้วย ต้นไม้ ดอกไม้ กล้วยไม้ กุหลาบพันปี และพันธุ์ไม้ที่สูงต่างๆช่วงเดือน มิถุนายน-กรกฎาคม ดอกไม้จะบานสวยงาม ส่วนเดือน ธันวาคม หรือมกราคม จะเป็นสถานที่เล่นสกี ทำกิจกรรมเดินข้ามแม่น้ำ  หมู่บ้านธางกู่ (Thangu) อยู่บนความสูง 4,200 เมตร  ห่างจากเมืองลาเช็นประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินป่าไปยังหุบเขาชอปตาและหุบเขามูกูถัง (Muguthang)               

                               
• วัดลาเชน (Lachen Gompa/ Lachen Monastery) หรือเรียกว่า วัดเนดุปโชลิง (Nedup Tsoling Monastery) สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1886 เป็นวัดเก่าแก่มากแห่งหนึ่ง ภายในมีรูปวาด กงล้อแห่งชีวิต หรือ The Wheel of Life เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาพุทธที่มักพบตามบริเวณทางเข้าวัด กงล้อสอนถึงปรัชญาความคิดพื้นฐานตามแบบศาสนาพุทธ การเวียนว่ายตายเกิด วงในสุดตรงกลางมีสัตว์สามชนิดเป็นสัญลักษณ์แทนกิเลสมนุษย์ ไก่หมายถึง ความโลภ งู หมายถึง ความโกรธ และหมู หมายถึง ความเพิกเฉยและขี้เกียจ วงกลมถัดมาห่อหุ้มสัตว์สามตัว จะแบ่งเป็นสีขาวและดำอย่างละครึ่ง สีขาวเป็นรูปมนุษย์หรือเทพต่างๆ หมายถึงสิ่งดีๆหรือชาติภพที่ดี สีดำเป็นโซนความเลวร้าย ปีศาจ ความชั่ว วงกลมใหญ่ถัดมา แบ่งออกเป็นส่วนๆแสดงถึงดินแดนสวรรค์ โลกของมนุษย์ โลกของสัตว์และดินแดนนรก วงกลมนอกสุดแสดงช่วงชีวิตที่มนุษย์จะพบทั้ง 12 ช่วง ทั้งนี้กงล้อทั้งหมดจะถูกสัตว์ประหลาดประคองด้วยฟัน เล็บมือ และเท้า เพื่อแสดงความรัก โลภ โกรธ หลง ของมนุษย์                

เมืองเพลลิง (Pelling)  เต็มไปด้วยธรรมชาติของต้นไม้นานาพันธุ์และน้ำตก เป็นเมืองเล็กๆ อยู่ทางตะวันตกของสิกขิม ห่างจากเมืองสิลิกูริประมาณ 133 กิโลเมตร ห่างจากเมืองกังต็อก 125 กิโลเมตร                                              

• ทะเลสาบแคชเชอเพลรี (Khecheopalri Lake) หรืออีกชื่อคือ Wishing Lake เป็นทะเลสาบที่เงียบสงบและศักดิ์สิทธิ์ นิยมมาขอพรกันทั้งศาสนาพุทธและฮินดู ห้ามไม่ให้มีกิจกรรมหรือกีฬาทางน้ำโดยเด็ดขาด               

เมืองหยกสม (Yuksom) เป็นเมืองหลวงแห่งแรกของสิกขิม เป็นจุดเริ่มต้นเดินป่า ไต่เขา เส้นทางที่นิยมคือเส้นทางสาย “ฌองกรี (Dzongri)” และเดินไปถึงเบสแค้มป์ (Base Camp)” ของยอดเขาคันเช็งฌองก้านั่นเอง อยู่ห่างจากเมืองเพลลิ่ง ประมาณ 33 กิโลเมตรและห่างจากกังต็อก 124 กิโลเมตร สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,780 เมตร Yuksom นั้นแปลว่า จุดนัดพบของลามะ 3 องค์ หมายถึงพระลามะชาวทิเบตทั้ง 3 องค์ (ทิศเหนือ ตะวันตกและใต้) เป็นผู้ตั้ง First Chogyal of Sikkim ในปี ค.ศ. 1641 โดยมีพุนซก นัมเกล (Phuntsog Namgyal) เป็นกษัตริย์องค์แรกที่ปกครองสิกขิม ก่อนที่ปี ค.ศ. 1670 เทนซุง นัมเกล (Tensung Namgyal) ลูกชายพุนซก นัมเกล จะเปลี่ยนเมืองหลวงเป็นเมืองแร็บเด็นเซ(Rabdentse) แทน

• วัดเปมายองเซ (Pemayangtse Gompa) ดอกบัวอันสูงส่ง เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองนี้ สร้างในศตวรรษที่ 18 มีความสำคัญที่สุดในศาสนาพุทธนิกายNyingmapa ภายในเก็บรักษาคัมภีร์ ตำราต่างๆ มีห้องทำพิธีกรรม และเป็นที่ตั้งของ แซงด็อกเพลรี (Zangdog Palri) หรือโมเดลไม้แกะสลักรูปปราสาท 7 ชั้น ทำเลียนแบบที่พำนักบนสรวงสวรรค์ของ Guru Padmasambhava ภายในมีสายรุ้ง นางฟ้า และเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ โมเดลนี้ใช้เวลาสร้างนาน 5 ปี โดย Dungzin Rinpoche ค่าเข้าชมคนละ Rs10

เมืองกาลิมปง

    เป็นเมืองพักตากอากาศที่อังกฤษได้เข้ามาพัฒนา เดิมเป็นหมู่บ้านเล็กๆ หลังจากอังกฤษมาพัฒนา จึงทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังโรงเรียนนานาชาติ ที่มีชื่อเสียง จึงทำให้คนอินเดีย และคนต่างชาติ ต่างส่งลูกหลานมาเรียนที่กาลิมปง

ข้อมูลจาก

• หนังสือ เที่ยวไม่ง้อทัวร์ ตีตั๋วตะลุยสิกขิม ปี พ.ศ. 2550
• เว็บ wikipidia