ทัวร์คิลิมานจาโร trekking 2025

ทัวร์  Trekking  Kilimanjaro Northern Circuit Route 8 Days

 Materuni Waterfall และ Coffee Tour     12 วัน 10 คืน

โดยสายการบินเอธิโอเปี้ยน แอร์ไลน์

กำหนดการเดินทาง  : 1-13 กรกฎาคม 2568(Dry Season Expedition)*

อัตราค่าบริการท่านละ 

ราคา ท่านละ 99,500  บาท
พักเดี่ยว เฉพาะโรงแรม ท่านละ 5,000 บาท

ยอดเขาคิลิมันจาโร (Mount Kilimanjaro) ชื่อภูเขามาจากภาษาสวาฮีลี(Swahili) แปลว่า "ภูเขาที่ทอแสงแวววาว" อายุกว่า 3ล้านปี ตั้งอยู่ในเขตประเทศแทนซาเนียใกล้พรมแดนประเทศเคนยา ลักษณะเป็นภูเขาไฟยอดเดี่ยวที่สูงที่สุดในโลก และเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปแอฟริกา มีความสูง 5,895 เมตร ตรงบริเวณยอดเขามี 3 ยอดเขา เรียงตามลำดับความสูง คือ ยอดคีโบ(Kibo) เป็นยอดที่สูงที่สุดในแอฟริกา มีความสูง 5,895 เมตร มีโพรงลึกเป็นรูปกรวยลึกถึง 113 เมตร ยังคงมีควันคุกรุ่น ยอดมาเวนซี(Mawenzi) ความสูง 5,353 เมตร อยู่ติดกับยอดคีโบ ยอดชีรา(Shira) ความสูง 3,778 เมตร

 
ลักษณะทริป **โปรดอ่านก่อนตัดสินใจเดินทาง**

 -เราเลือกใช้เส้น Northern Route เดิน 8 วัน ถือว่าเป็นเส้นที่มีการปรับสภาพอากาศดีสุดและมีโอกาส success มาก ที่สำคัญนักท่องเที่ยวน้อยคะสำหรับเส้นทางนี้
- เมื่อไปถึงเราจะพักที่ Moshi ก่อน 2 วัน 2 คืน เพื่อปรับเวลา และ สภาพร่างกาย ก่อนไปเดินเทรค
-  ผู้เดินทางต้องมีประสบการณ์ในการเดิน Trekking  ที่ระดับ 4,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล มาก่อน
-  ผู้เดินทางต้องเคยไม่มีประวัติแพ้ที่สูงมาก่อน หรือ เคยเป็น AMS มาก่อน
-  ผู้เดินทางต้องกินง่าย อยู่ง่าย
 -  ระหว่างการเดินเทรคหากรู้สึกเหนื่อยมากและรู้สึกไปต่อไม่ไหวให้แจ้งหัวหน้าทัวร์ทันที และปฏิบัติตามคำสั่งของไกด์ Trekking ไม่ไหวอย่าฝืน
-  ระหว่างการเทรค ไฟฟ้าไม่มีใช้ โปรดเตรียมแบตเตอร์รี่สำรองไปให้พอ
-   ระหว่างการเทรค ไม่มีน้ำให้อาบ จะต้องเตรียมทิชชู่เปียกแบบย่อยสลายได้ไปใช้เช็ดตัว
-   มีส้วมพกพาให้ใช้ ที่แคมป์ ทุกวัน
-   มีน้ำดื่มให้เติมทุกวัน
-   สุขภาพร่างกายต้องแข็งแรงเป็นอย่างมาก เพราะเราอาจเจอสภาพอากาศที่เลวร้าย อย่างเช่น ร้อนจัด หมอก ฝนตกและหนาวจัด ใน 1 วัน แต่ในช่วงเดือน ก.ค. ที่เราจัดอากาศดี มากค่ะ ไม่มีฝน หรือ มีก็น้อยมากๆ
-   เดินวันละ 3-12 ชั่วโมง และเป็นพื้นที่อากาศเบาบาง ออกซิเจนน้อย
 -  อุปกรณ์กันแดดในเวลากลางวัน และอุปกรณ์กันหนาวในเวลาค่ำคืน
-   กลางวันร้อน กลางคืนหนาว บางคืนที่ใกล้ๆยอดเขาอาจหนาวถึง -10 องศา และอาจมีฝนบ้างในบางวัน
-   ควรเตรียมถุงนอนไปด้วย ในระดับที่ไม่ต่ำกว่า -15 C
-   ผู้เดินทางต้องได้รับการฉีดวัคซีนไข้เหลือง ก่อนการเดินทาง
-   สิ่งสำคัญ!!!ไม่เหมาะกับผู้ที่สุขภาพไม่แข็งแรง มีโรคประจำตัว เช่น ความดันต่ำ ความดันสูง โรคหัวใจ ไทรอย ภูมิแพ้ หรือหอบหืด เป็นต้น ผู้ที่มีโรคประจำตัวดังกล่าว โปรดปรึกษาแพทย์ประจำตัวเพื่อผลประโยชน์แก่ตัวลูกค้าเอง

 โปรแกรมการเดินทาง

วันเช็คอิน  01 ก.ค. 68 : กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ  
22.00 น. คณะเดินทางพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 10 Row U  เคาน์เตอร์สายการบิน ETHIOPIAN AIRLINES   
 
วันที่หนึ่ง  02 ก.ค. 68 : กรุงเทพฯเอธิโอเปียคิลิมันจาโร ประเทศแทนซาเนีย-เมืองโมชิ
01.50 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศเอธิโอเปีย เที่ยวบินที่ ET 629  ใช้เวลาบิน 8 ชั่วโมง 40 นาที บนเครื่องบินมีäอาหารและเครื่องดื่มบริการ
 
06.30 น. เดินทางถึง สนามบิน ADDIS ABABA ประเทศเอธิโอเปีย (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) จากนั้นนำท่านสู่ Transit Hall รอต่อเครื่องไปยังประเทศแทนซาเนีย 
 
10.35 น. เหินฟ้าสู่ ประเทศแทนซาเนีย ด้วยเที่ยวบินที่ ET 815 ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมง 35 นาที บนเครื่องมีอาหารว่างบริการ
 
13.10 น. เดินทางถึง สนามบิน KILIMANJARO AIRPORT ประเทศแทนซาเนีย (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) ผ่านด่านตรวจคัดกรองสุขภาพ และพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าสัมภาระ จากนั้นเดินทางสู่โรงแรม ใช้เวลาประมาณ 45 นาที เมือง Moshi ซึ่ง Moshi เป็นเมืองหลวงของภูมิภาค Kilimanjaro ทางตะวันออกเฉียงเหนือของแทนซาเนีย ในปี 2017 มีประชากรประมาณ 201,150 คน เมืองตั้งอยู่บนเนินเขาด้านล่างของภูเขาคิลิมันจาโรซึ่งเป็นภูเขาไฟที่สงบนิ่งซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในแอฟริกา มีพื้นที่ประมาณ 59 ตร.กม. และเป็นเขตเทศบาลที่เล็กที่สุดในแทนซาเนีย จากนั้นเดินทางเข้าสู่ที่พัก และเช็ตอินอิสระพักผ่อน
 
ค่ำ  บริการอาหารเย็น (มื้อที่ 1)รวมในค่าทัวร์ หลังอาหารอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
 
ที่พัก โรงแรม PANAMA GARDEN HOTEL หรือเทียบเท่า
 
วันที่สอง 03 ก.ค. 68 : Moshi-Materuni WaterfallCoffee Tour
 
07.00 น. อรุณสวัสดิ์ยามเช้า  บริการอาหารเช้าที่ห้องอาหาร(มื้อที่ 2)
 
08.30 น. นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน Materuni เป็นบ้านของชนเผ่า Chagga เป็นหมู่บ้านของชนเผ่าดั้งเดิม อยู่ห่างจากเมือง Moshi เพียง 15 กม. และเป็นหมู่บ้านสุดท้ายก่อนถึงอุทยานแห่งชาติ Kilimanjaro นำท่านเดินไปเที่ยวชม น้ำตก Materuni Waterfall เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามน่าประทับใจแห่งหนึ่ง  สูงกว่า 70 เมตร ไหลลงสู่แอ่งด้านล่าง เดินลัดเลาะไปตามหุบเขา ผ่านไร่กาแฟ สวนกล้วย และอะโวคาโด้ ใช้เวลาเดินประมาณ 40 นาที หากอากาศดีเราจะมองเห็นยอด Kibo ได้ การเดินไปยังน้ำตกแนะนำให้ใส่รองเท้าสำหรับปีนเขา อิสระถ่ายภาพและเล่นน้ำตก สมควรแก่เวลาเดินทางกลับไปยังหมู่บ้าน เพื่อรับประทานอาหารกลางวันท้องถิ่นและไม่ควรพลาดที่จะลิ้มลองเบียร์กล้วย
 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน(มื้อที่ 3)
 
บ่าย นำท่านเที่ยวชมไร่กาแฟ Kahawa Coffee tour ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของเมืองโมชิ เป็นเม็ดกาแฟที่ปลูกตามเชิงเขาของคิลิมันจาโร จะมีรสชาติและกลิ่นที่หอมมันไม่เหมือนใคร เรียนรู้วิธีการปลูกกาแฟ อบแห้งคั่วและแปรรูป รวมไปการบดกาแฟซึ่งมาพร้อมกับเพลง Chagga และการเต้นรำแบบดั้งเดิม สมควรแก่เวลาเดินทางกลับเมือง Moshi
 
เย็น รับประทานอาหารเย็น(มื้อที่ 4) ที่ห้องอาหารของโรงแรม ไม่รวมในค่าทัวร์ หลังอาหารอิสระพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวสำหรับเดินเทรคในวันรุ่งขึ้น
 
ที่พัก โรงแรม PANAMA GARDEN HOTEL หรือเทียบเท่า
 
 วันที่สาม 04 ก.ค. 68: Moshi Londorossi Gate (2370m ) Forest Camp(2895m) Trek Day 1
 
06.00 น. อรุณสวัสดิ์ยามเช้า รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 6)  
 
07.00 น. ออกเดินทางสู่จุดเริ่มต้นเทรคกิ้งที่ Londorossi ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง รวมแจ้งเอกสารเข้าที่ gate  โดยเราจะใช้เส้นทางเดินเทรค Lemosho Route  เดินไปยังแค้มป์ที่พักของเราในค่ำคืนนี้ ที่ Forest Campsite ระยะทาง 6 กม. ใช้เวลาเดินประมาณ 3-4 ชั่วโมง  การเดินในวันแรกจะเดินในโซนที่เป็นป่า Rain Forest เราอาจจะเจอฝน โคลน หรือ หมอก ต้องเตรียมชุดฝนติดไปด้วยนะคะ วันนี้  ระหว่างทางเราอาจจะได้พบกับลิง Colobus เป็นลิงที่จัดอยู่ในกลุ่มค่าง ตัวมีสีขาว ดำ  äรับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 7) หลังอาหารอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย คืนนี้พักที่ระดับความสูง 2,895เมตรจากระดับน้ำทะเล
 
ค่ำ รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 8)  หลังอาหารอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย 
 
ที่พัก Forest Campsite (2,895 เมตร)
 
วันที่สี่ 05 ก.ค. 68: Forest Campsiteระยะทาง 8 km ใช้ 5-6 Hrs-Shira Camp1 (3,500m) Trek Day 2

 07.00 น. อรุณสวัสดิ์ยามเช้า äรับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 9) 
 
08.30 น. เริ่มต้นเดินเทรค ไปยังแค้มป์ Shira Camp 1 (3,500เมตร) โดยในวันนี้เราจะต้องเดินเทรคจากป่าดิบชื้นสู่ทุ่งสะวันนา ระยะทาง 8 กม. ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง การเพิ่มขึ้นของระดับความสูงประมาณ 600 เมตร เส้นทางระหว่างเดินเทรคเราจะสามารถมองเห็นวิวของยอดเขา Kibo ที่มีน้ำแข็งปกคลุม äรับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 10) หลังอาหารเดินทางต่อโดยก่อนถึงแคมป์จะต้องเดินทางสันเขา Shira จากนั้นจึงเดินลงมายังที่ตั้งแคมป์
 
ค่ำ รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 11) หลังอาหารอิสระพักผ่อน
 
ที่พัก Shira I camp  3,500 เมตร   
 
 
 วันที่ห้า 06 ก.ค. 68: Shira I Shira 2 - Moir Hut (4114) ระยะทางเดิน 14 กม. 7-8 ชั่วโมง Trek Day 3

เช้า  อรุณสวัสดิ์ยามเช้า พร้อมäรับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 12) หลังอาหารเช้าวันนี้เป็นการเดินทางผ่ายที่ราบสูง Shira ซึ่งเป็นที่ราบสูงที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยเดินกือบตลอดทั้งวันจาก Shira I สู่ Shira 2 และผ่านทุ่ง moorland วันนี้เป็นการเดินที่หลากหลาย ไปยัง camp  Moir Hut ซึ่งถือเป็นการปรับสภาพร่างกายในวันนี้
 
รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 13) หลังอาหาร ให้ท่านได้พักผ่อนปรับสภาพร่างกาย
 
เย็น รับประทานอาหารค่ำที่ห้องอาหาร (มื้อที่ 14)
 
ที่พัก Moir Hut Camp  4,114 เมตร
 
วันที่หก 07 ก.ค. 68 : Moir Hut (4114) to Buffalo Camp (4030) เดิน 12 กม. ใช้เวลา 5-7 ชั่วโมง  Trek Day 4
 
07.00 น. อรุณสวัสดิ์ยามเช้า äรับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 15) หลังอาหารเราจะเริ่มต้นเดินออกจาก Moir Hut ไปยัง Buffalo camp เส้นทางชันไม่มาก เป็นการเดินผ่านทุ่งหิน ทิวทัศน์อันงดงามของที่ราบซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของคิลิมันจาโรและทอดยาวไปจนถึงชายแดนเคนยา/แทนซาเนีย

 ระยะทาง เราจะเดิน 12 กม. ใช้เวลา 5-7 ชั่วโมง
 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 16) 
 
บ่าย รับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิค ระหว่างการเดิน trek
 
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 17)
 
ที่พัก  Buffalo camp 3,950 เมตร
 
วันที่เจ็ด 08 ก.ค. 68 : Buffalo camp(4030) Third Camp (3800) ระยะทาง 5 กม.4-5 ชม. Trek Day 5
 
07.00 น. อรุณสวัสดิ์ยามเช้า äรับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 18) หลังอาหารเราจะ เดินไปยัง Third Camp วิววันนี้เป็นวิวกว้างๆ ของด้านเหนือของคิลิมานจาโร เส้นทางนี้ นักท่องเที่ยวน้อย กว่าเส้นทางอื่น  
 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 18) 
 
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 19)  ที่แคมป์
 
ที่พัก  Karanga camp 4,235 เมตร
 
วันที่แปด 09 ก.ค.: Third Camp(3900) School Hut camp(4800) : 5 กม. ใช้เวลา 4-5 ชม.Trek Day 6
 
07.00 น. อรุณสวัสดิ์ยามเช้า äรับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 20) หลังอาหารเราจะ เดินไปยัง  School hut camp (4,800 เมตร)  ระยะทาง 5 กม. ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงในการเดิน trek  วันนี้เป็นแคมป์ที่สูงที่สุดสำหรับการเดินคิลิมานจาโร และ เมื่อมาถึงแล้ว ให้รีบพักผ่อนเข้านอน 
 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 21) 
 
 วันนี้เป็นการเดินระทางไม่ไกล แต่ชัน และ ถือเป็นการปรับสภาพอากาศอีกหนึ่งวัน ก่อนที่จะพิชิตยอดในวันพรุ่งนี้
 
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 22)  ที่แคมป์ วันนี้ต้องรีบเช้านอนกันสักหน่อยนะคะไม่เกิน 18.30 น.  เพราะรวมๆ 23.30 น. ไกด์จะมาปลุกตื่นให้เตรียมตัวพิชิตยอดเขา 
 
ที่พัก School Hut camp(4800)   4,550 เมตร
 
23.30 น. อรุณสวัสดิ์ยามเช้า ตื่นมาเติมพลังดื่มชา ขนมบิสกิต อาหารเช้า (มื้อที่ 23)
 
  
วันที่เก้า 10 ก.ค.  School Hut camp-พิชิตยอดเขา Uhuru(5895M) Millenium Camp(3900m) Trek Day 7
 
เที่ยงคืน
นำท่านเดินไปพิชิตยอดเขา Uhuru ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นหลังคาแอฟริกา ที่ระดับความสูง 5,895 เมตรจากระดับน้ำทะเล ระยะทาง 6 กม. ถึงยอด Uhuru ใช้เวลาเดินประมาณ 7-8 ชั่วโมง และการเพิ่มขึ้นของระดับความสูงประมาณ 1,000- 1,195 เมตร เดินอย่างช้าๆท่ามกลางความมืดอันหนาวเหน็บอาจติดลบถึง -20 C โปรดเตรียมอุปกรณ์กันหนาวและไฟฉายไปให้พร้อม วันนี้จะเป็นวันที่ท้าทายร่างกายและจิตใจเรามากที่สุด เดินผ่านหินภูเขาไฟ ผ่านถ้ำ Hans Meyer (5150เมตร) และเส้นทางซิกแซกไปจนถึง Gilman Point (5700เมตร) ซึ่งตั้งอยู่บนขอบปล่องภูเขาไฟ ส่วนนี้สูงชันมากหินกรวดต้องใช้ความพยายามทั้งทางร่างกายและจิตใจเราจะพักเหนื่อยสักครู่ เพื่อชมพระอาทิตย์ที่สวยงามเหนือยอดเขา Mawenzi จากนั้นเดินต่อไปยังยอด Uhuru อีกประมาณ 1 ชั่วโมง ผ่านไปใกล้ธารน้ำแข็งและหน้าผาน้ำแข็งที่ยังคงครองพื้นที่ส่วนใหญ่ ในที่สุดเราก็มาถึง Uhuru Peak ซึ่งจุดที่สูงที่สุดของ Mount Kilimanjaro และทวีปแอฟริกา บนยอดแห่งนี้เราจะใช้เวลาอยู่ไม่นานนัก เนื่องจากสภาพอากาศที่เบาบาง สมควรแก่เวลาเดินทางกลับสู่แค้มป์ที่ Millenium Camp ซึ่งเป็นการเดินทางกลับอีกเส้นทาง ใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง จากนั้นäรับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 24) และอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
 
เย็น  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 25) หลังอาหารอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย  
 
ที่พัก  Millenium Camp   
 
 
วันที่สิบ 11 ก.ค. 68 : Millenium Camp(3900)-ระยะทาง 12 km ใช้เวลาเดิน 5-6 ชมMweka Park gate(1980)- Trek Day 8 Drive to Moshi
 
06.00 น. อรุณสวัสดิ์ยามเช้า  äรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร (มื้อที่ 26)
 
07.30 น. ออกเดินทางจาก Mweka Camp เดินทางสู่  Mweka Park Gate  ระยะทาง 10 กม. ใช้เวลาเดิน ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ที่ระดับความสูง 1,980 เมตร จากระดับน้ำทะเล ในวันสุดท้ายของการเดินเทรคนี้ จะเดินทางไกลลงสู่ที่ต่ำผ่านป่าฝนเขตร้อน เมื่อถึง Mweka äบริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 27) และที่จุดนี้ ทุกท่านที่สามารถพิชิต Gilman Point จะได้รับเกียรติบัตรเขียวและผู้พิชิตยอดเขา Uhuru Peak จะได้รับเกียติบัตรทองเป็นการรับรองความสำเร็จ จากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถสู่เมือง Moshi  นำท่านเช็กอินเข้าสู่ที่พัก ให้ท่านได้อาบน้ำชำระล้างร่างกายหลังจากที่ไม่ได้อาบมาหลายวันและเตรียมฉลองความสำเร็จในค่ำคืนนี้
 
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ(มื้อที่ 27) Farewell Dinner รวมในค่าทัวร์
 
ที่พัก  PANAMA GARDEN HOTEL หรือ เทียบเท่า
 
วันที่สิบเอ็ด 12 ก.ค. 68 : Moshi เอธิโอเปีย กรุงเทพฯ
 
เช้า อรุณสวัสดิ์ พร้อมäรับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 28) หลังอาหารเดินทางไป ชม สถานีรถไฟเก่า (The Old Moshi Railway Station) เป็นสถานีรถไฟเก่าแก่ ซึ่งสถานีรถไฟนั้นได้รับการพัฒนาโดยชาวเยอรมันและถูกยึดครองโดยอังกฤษ หอนาฬิกา (Clock Town)  ตลาดท้องถิ่น (Spice and Grain Market) เป็นตลาดเล็กๆขายของจำพวกข้าว เครื่องเทศ เกลือ น้ำตาล เนื้อสัตว์ อุปกรณ์ทำอาหาร เป็นต้น

อิสระ รับประทานอาหารกลางวัน ไม่รวมในค่าทัวร์ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินคิลิมันจาโร
 
17.35 น. เหินฟ้าสู่ ประเทศเอธิโอเปีย ด้วยเที่ยวบินที่ ET 814 ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมง 30 นาที มีบริการอาหารว่างบนเครื่อง
 
19.50 น. ถึงสนามบิน Addis ababa ประเทศเอธิโอเปีย จากนั้นรอต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ *äอิสระรับประทานอาหารค่ำภายในสนามบิน
 
22.50 น. เหินฟ้ากลับกรุงเทพฯ ด้วยเที่ยวบินที่ ET 628 ใช้เวลาบิน 9 ชั่วโมง 20 นาที มีบริการอาหารบนเครื่อง
 
วันที่สิบสอง 13 ก.ค. 68 : Bangkok
 
12.00 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
 
*** วันเดินทางกลับมาถึงกรุงเทพฯ ทุกท่านต้องแสดงตนต่อ Health Control ก่อนผ่านกองตรวจคนเข้าเมือง โดยแสดงสมุดเล่มเหลือง หากลืมหรือเดินผ่านไป กองตรวจคนเข้าเมืองจะ ให้ท่านเดินกลับมาใหม่จะทําให้เสียเวลา***
 
หมายเหตุ : โปรแกรมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมและความปลอดภัย  

-----------------------------------

อัตราค่าบริการนี้รวม

-ค่าที่พัก 10 คืน เป็นโรงแรมที่ Moshi 3 คืน แค้มป์ช่วงเดินเทรคกิ้ง 7 คืน  พักห้องละ 2 ท่าน
-ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุ  
-ค่าน้ำดื่มวันละ 1 ขวด
-ค่ารถ
-ไกด์เทรคกิ้ง และลูกหาบ  รวมไปถึงทีมงานบนยอดเขา และค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติคิลิมานจาโร
-หัวหน้าทัวร์ไทย
-ค่าประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทาง แบบ Silver ของไทยวิวัฒน์

หมายเหตุ  ลูกค้าสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมเรื่อง Helicopter Evacuation ได้จากประกันต่างประเทศ  ตัวอย่างเช่น

1.      IMG : https://www.imglobal.com/ ราคาถูกที่สุด มีเงื่อนไขคือ ต้องอายุต่ำกว่า 69 ปี ทริปยาวไม่เกิน 31 วัน

แผนประกัน iTravelinsured Travel LX

2.      Global rescue : https://www.globalrescue.com/  ราคาจะแพงที่สุด แต่มีความน่าเชื่อถือในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยมากที่สุด

-ลูกหาบแบกสัมภาระของเราได้ไม่เกิน 12-15 กก.
-มีถังอ๊อกซิเจน ในช่วงระหว่างที่เดินเทรค

 
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
-ค่าวีซ่าท่องเที่ยวประเทศแทนซาเนียแบบ Visa On Arrival  50 USD วีซ่าไม่ยุ่งยากสะดวกรวดเร็วมากที่สนามบิน
-ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ สายการบินเอธิโอเปี้ยนแอร์ไลน์ ให้โหลด กระเป๋า 23*2 ใบ
-ค่าอาหารบางมื้อที่ไม่ได้ระบุในโปรแกรม
-ค่าใช้จ่ายส่วนตัว  เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าบริการซักรีด เป็นต้น
-ค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  ค่ามินิบาร์  ค่าเครื่องดื่มนอกเหนือรายการ
-ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น ลูกหาบ และพนักงานขับรถ  300 USD/ลูกค้าหนึ่งท่าน เนื่องจากลูกค้า 1 ท่านทางอุทยานจะกำหนดให้มี ลูกหาบ 3 ท่าน ไกด์หนึ่งท่าน พ่อครัวหนึ่งท่าน และ ผู้ช่วย 1 ท่าน อัตราส่วนค่าทิบ ที่ทีมงานได้รับจากลูกค้าถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับการทำงานของทีมงาน
-ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย 1,200 บาท/ลูกค้าหนึ่งท่าน
-ค่าธรรมเนียมน้ำมันของสายการบิน (ถ้ามี)
-ค่าทำเอกสารผู้ถือต่างด้าว
-ค่าวีซ่าที่มีค่าธรรมเนียมแพงกว่าหนังสือเดินทางไทย
-ค่าน้ำหนักเกินพิกัดที่สายการบินกำหนด
-ค่ากิจกรรมต่างๆที่นอกเหนือจากโปรแกรมระบุ  เช่น ขี่ม้า ลูกหาบส่วนตัว ฯลฯ


สิ่งของที่ต้องเตรียม
-ขวดน้ำดื่มที่ใช้ซ้ำได้ ควรมีขนาดไม่ต่ำกว่า 1 ลิตร ควรมีให้ถึง 2-3 ลิตร  หรือ 2 ขวด เป็นอย่างน้อย
-ถุงนอน ต้องไม่ต่ำกว่า 15๐C / ถุงนอน ถ้าไม่มี สามารถเช่าได้ในราคาประมาณ 10$
-เสื้อผ้าที่แห้งง่าย ระบายอากาศได้ดี รองเท้าเทรคกิ้ง ไม้เทรค
-ในวันที่ปีนขึ้นพิชิตยอด Uhuru Peak อากาศหนาวจัด ควรใส่เสื้อผ้าเป็นเลเยอร์ ถุงมือ ถุงเท้า หมวกไหมพรม ผ้าพันคอ
-ไฟฉายแนะนำเป็นแบบคาดหัว แบตเตอร์รี่สำรอง เมมโมรี่การ์ด
-แว่นกันแดด ลิปมัน เสื้อกันแดด หมวกกันแดดปีกกว้าง เพราะกลางวันอาจเจอแดดจัด เสื้อกันฝน
-ชุดปฐมพยาบาล ที่ควรต้องมี ยาแก้ไข้ ยาแก้ไอ ยาแก้แพ้ ครีมนวดบรรเทาอากาศเจ็บปวด เคล็ดขัดยอกจากการเดิน ผ้าพันแผล (bandage) พลาสเตอร์ยา แอลกอฮอล์เช็ดแผล สำลี ยากันยุง อุปกรณ์เย็บผ้า นกหวีด สนับเข่า เป็นต้น
-กระเป๋าที่ไปเดินเทรคควรเป็น Duffel Bag ขนาดไม่เกิน 100 ลิตร
-ฉีดวัคซีนป้องกันไข้เหลือง ได้ที่ คลินิกนักท่องเที่ยว โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล /  คลินิกเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและอายุรศาสตร์การท่องเที่ยว สถานเสาวภา สภากาชาดไทย


การจองทริปและชำระเงิน

1 จองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการ Trekking

2.ผู้สนใจ โอนเงินมัดจำ ท่านละ  39,500   บาท พร้อมส่งสำเนาพาสปอร์ต

3.ส่วนที่เหลือชำระก่อนเดินทาง 21 วัน มิฉะนั้นทางบริษัทฯ จะขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่ามัดจำทั้งหมด



**  โอนแล้วนำหลักฐานสลิปการโอนเงินพร้อมทั้งแจ้งชื่อ นามสกุล อายุ เบอร์โทรศัพท์  ชื่อทริป วันที่เดินทาง สำหรับทำประกันเดินทาง    ส่งเมลมาที่ tripdeedee@gmail.com

--------------------------------------------

การยกเลิกทัวร์

1. ยกเลิกทัวร์ ก่อนเดินทาง 60 วัน บริษัทคืนเงินให้ทั้งหมด หรือคิดค่าใช้จ่ายตามจริง
2. แจ้งยกเลิกทัวร์อย่างน้อย 45  วัน ก่อนวันเดินทาง  ทริปดีดี ดอทคอม  คืนเงินมัดจำลูกค้าจำนวน  20 %
3  แจ้งยกเลิกทัวร์ระหว่าง  1-44 วัน ก่อนวันเดินทาง  ทริปดีดี ดอทคอม ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่ามัดจำในทุกกรณี
เงื่อนไข

-บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงโปรแกรม ราคา และเงื่อนไขทั้งหมดโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

-การไม่รับประทานอาหารบางมื้อ  ไม่เที่ยวตามรายการ ไม่สามารถเรียกค่าบริการคืนเป็นเงินได้ เพราะการชำระค่าทัวร์เป็นไปในลักษณะแพคแกจเหมาจ่าย

-รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม เนื่องจากความล่าช้าของสายการบิน โรงแรมที่พักในต่างประเทศ เหตุการณ์ทางการเมือง และภัยธรรมชาติ ฯลฯ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯ หรือ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรง หรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้า หรือ จากอุบัติเหตุต่างๆ  ทั้งนี้ บริษัทฯ จะคำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกของผู้เดินทางเป็นสำคัญ

-บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมือง ห้ามผู้เดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือสิ่งของห้ามนำเข้าประเทศ เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ ความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสีย หรือด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามที่กองตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้ว ทางบริษัทฯ ไม่อาจคืนเงินให้ท่านได้ ไม่ว่าจำนวนทั้งหมด หรือ บางส่วน

-บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะเลื่อนการเดินทางหรือยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 15 ท่าน

-บริษัทฯ มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้