ทัวร์อุซเบกิสถาน เอเชียกลาง 8 วัน

(0)
SKU : ทัวร์อุซเบกิสถาน
ทัวร์อุซเบกิสถาน ทาชเค้นท์ คีว่า ซามาร์คานด์ บุคาร่า 8 วัน 6 คืน 11-18 เม.ย. 68 : 78,900 (รวมตั๋วเครื่องบินแล้ว)
฿78,900
฿0
฿78,900
ราคาสมาชิก
 
฿0
ราคาสมาชิก
฿0

รายละเอียดสินค้า

ทัวร์อุซเบกิสถาน มนต์เสน่ห์แห่งเอเชียกลาง 8 วัน 6 คืน
เส้นทางสายไหมในเอเชียกลาง ทาชเค้นท์ - คีว่า- ซามาร์คานด์-บุคาร่า
บินภายในทาชเค้นท์-เออเก้นท์ และนั่งรถไฟความเร็วสูงจากซาร์มาคานด์สู่ทาชเค้นท์
เดินทางโดยสายการบิน UZBEKISTAN AIRWAYS
พักทาชเค้นท์ 2คืน/คีว่า 1คืน/บูคาร่า 2คืน/ซามาร์คานด์ 1คืน
กำหนดเดินทาง: 11-18 เมษายน 2568


 

อัตราค่าบริการ
ท่านละ 78,900 บาท/ท่าน (รวมค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว)

พักเดี่ยว เพิ่ม 9,500 บาท
 
รายละเอียดการเดินทาง

วันที่หนึ่ง กทม.-ทาชเค้นท์
 
05.00 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 10 Row W เค้าเตอร์สายการบิน Uzbekistan Airways เช็กอินโหลดกระเป๋าสัมภาระ

 08.10 น. เหินฟ้าสู่ประเทศอุซเบกิสถาน ด้วยเที่ยวบินที่ HY 532 ใช้เวลาบิน 7ชั่วโมง บนเครื่องมีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการ
 
13.10 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติทาชเค้นท์ ประเทศอุซเบกิสถาน **เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 2ชั่วโมง** ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางเข้าตัวเมืองกรุงทาชเค้นท์ (Tashkent) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของอุซเบกิสถาน อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในเอเชียกลางอีกด้วย อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอุซเบกิสถานใกล้ชายแดนติดกับคาซัคสถาน เช็กอินเข้าที่พักและอิสระพักผ่อน

เย็น บริการอาหารค่ำ (มื้อที่ 1)

ที่พัก โรงแรม NAVRUZ HOTEL TASHKENT  หรือ INSPIRA-S HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 3++
 

วันที่สอง ทาชเค้นท์ นูกัส  - คิว่า
เช้าตรู่  บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 2) แบบปิกนิค พร้อมนำท่านเดินทางสู่สนามบิน

07.15 น.  เหินฟ้าสู่เมือง Nukas ด้วยเที่ยวบินที่ HY 15 ใช้เวลาบิน 1ชั่วโมง 40นาที

08.55 น.  เดินทางถึงสนามบินเมืองนูกัส นำท่านออกเดินทางต่อสู่ เมืองคิว่า (Khiva) ระยะทาง 180 กม. ใช้เวลาประมาณ 3.5-4 ชม. ซึ่งเป็นเมืองระดับอำเภอ มีประชากรราว 93,000 คน ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 1,500 ปี เป็นเมืองหลวงเก่าของ Khwarezmia ระหว่างทางแวะถ่ายรูป ป้อมปราการ Khorezm โบราณ Ayaz-Kala และ Toprak-Kala ป้อมปราการแห่ง Kushan ในยุค Khoream เคยเป็นป้อมชายแดนที่ยิ่งใหญ่ปกป้องการโจมตีของชนเผ่าเร่ร่อน ป้อมเหล่านี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 4-7 ก่อนคริสศักราช ในสมัยที่ Khorezm ประสบความสำเร็จ ตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้กัน

กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน (มื้อที่ 3)

บ่าย  นำท่านเดินท่องเที่ยวชมเมืองคิว่า ในโซนเมืองชั้นใน Ichan-Kala เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียกลาง เป็นสถานที่แรกในอุซเบกิสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 1990 เป็นเมืองเก่าที่มีอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์มากกว่า 50แห่งและบ้านเก่ากว่า 250 หลัง มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 หรือ 19 เป็นหลัก เช่น ประตู Ata-Darvaza เป็นประตูตะวันตก สร้างในปี 1842 ถูกทำลายลงในปี 1920 และบูรณะปี 1975 ประตูสูง 10 เมตรและกว้าง 4 เมตร เป็นประตูหลักของป้อมปราการ Ichan-Qala ประตูทางทิศเหนือจะเป็น Bagcha Darwaza สูง 8.5 เมตร มีบันไดอยู่ด้านข้างทิศใต้ ประตูตะวันออกคือ Palvan Darwaza สร้างปี 1804-1806 ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่กวีท้องถิ่น Mahmud Palvan ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของเมือง ประตูเป็นรูปโค้ง ถนนหินมีโดม 6 โดม มีจารึก Shahri Khiva ที่ทางเข้า ก่อสร้างเสร็จในปี 1835 และประตูทิศใต้คือ Tash Darwaza สร้างในปี 1930 สมัยของ Allah Kuli Khan เป็นอาคารหกห้องที่มีโดมสองโดม มีหอคอยขนาดใหญ่สองแห่ง ประตูสูง 9 เมตร ทางซ้ายมือของประตู Ata Darvaza จะเป็น ป้อม Kunya-Ark เป็นป้อมปราการใน Itchan Kala ซึ่งเป็นเมืองเก่าทางประวัติศาสตร์ของคิว่า ครอบคลุมพื้นที่ 1.2 เฮกตาร์ สร้างในศตวรรษที่ 17 โดยข่านแห่งคิว่า Muhammad Erenke เพื่อเป็นศูนย์กลางการปกครอง เป็นที่ตั้งของโรงเรียนสอนศาสนา ส่วนขวามือเป็น Madrassah of Muhammad Rahim Khan อยู่ทางตะวันออกของ Kunya-Ark ชื่อเต็มๆคือ Said Muhammad Rahim Bahadur Khan คนท้องถิ่นเรียกว่า Madraim Khan สร้างตามคำสั่งของ Seyid Muhammad Rahim Khan แล้วเสร็จในปี 1876 เป็นอาคาร 2 ชั้น มีประตูทางเข้าสูง สนามหญ้า และมีป้อมเล็กๆอยู่ที่มุม ภายในมี 76 ห้อง เป็นสัญลักษณ์ของศิลปะในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และ Madrassah of Muhammed Amin Khan เป็นโรงเรียนสอนศาสนาและที่พักสำหรับนักเรียนมากกว่า 260 คน ในปี 1851-52 โดยผู้ปกครอง Qungrat Muhammad Amin Khan พยายามสะท้อนถึงความรุ่งโรจน์ของคานาเตะที่กำลังเสื่อมถอย ตั้งอยู่ทางตะวันตกของ Ichan-Kala ซึ่งเป็นประตู Ata Darwaza มีความหรูหราและสวยงาม มีโดมห้าโดม มัสยิดฤดูหนาวและฤดูร้อน ห้องสมุด นอกจากนี้ยังมีหอคอยสุเหร่าที่สูงที่สุดในเอเชียกลาง การเสียชีวิตอย่างกะทันหันของมูฮัมหมัด อามิน ข่าน ในการสู้รับกับ Teke Turkmen ในปี 1855 และการก่อกบฏทำให้การก่อสร้างต้องหยุดชะงักลง ส่งผลให้สุเหร่า Kalta Minor สร้างไม่เสร็จกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ซึ่งหอคอยสุเหร่านี้เริ่มสร้างปี 1851 โดยมูฮัมเหม็ด อามิน ข่าน ผู้ปกครองเมืองคิว่า ฐานของสุเหร่าสูง 15 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางที่ฐาน 14.5 เมตรและสูง 29 เมตร ซึ่งเดิมตั้งใจจะให้สูง 70 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเคลือบสีสวยสดใส พร้อมคำจารึกด้วยอักษร Nastaliq เป็นอักษรวิจิตรที่ใช้ในการเขียนเป็นภาษาเปอร์เซีย ชม พระราชวัง The Palace of the Allakulihan Khan of Khiva ได้แก่ Tash Khauli อันเป็นพระราชวังหลัก สร้างในปี 1830-1838 โดยผู้ปกครอง Khorezm Allakuli Khan อยู่ทางตะวันออกของ Ichan-Kala เป็นกลุ่มอาคารที่ประกอบด้วยพระราชวังและอาคารที่พักอาศัย ล้อมรอบด้วยกำแพงสูง มีป้อมปืนโคมไฟอยู่ที่มุม อาคารพระราชวังทำด้วยอิฐเผา มีห้องของข่าน ที่ตั้งของฮาเร็มนางสนม 40 คน กระโจมสำหรับแขก ท้องพระโรง ห้องรับรองแขก รวมไปถึงศาล แต่ละห้องมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองไม่ซ้ำใคร 
คาราวานซาราย(Caravanserai Allakulikhan) สร้างขึ้นในปี 1835 สำหรับพ่อค้า มีห้องเก็บผ้าไหมดิบและผ้าไหม เป็นอาคาร 2ชั้น มี 105 ห้อง ต่อมา Tim ได้มาต่อเติมส่วนหน้าอาคาร ทำศูนย์การค้า

สุสาน Seyd Allaudin เป็นหนึ่งในอาคารเก่าแก่ที่สุดในเอเชียกลาง ไม่ทราบวันแน่นอนของการก่อสร้าง ว่ากันว่าสร้างกลางศตวรรษที่ 14 มีคำจารึกว่าสุสานนี้สร้างโดย Sheikh Said Mir Kulol ภายในมี 2ห้อง ได้แก่ ห้อง Khanaka และ หลุมฝังศพของ Said Mir Kulol หน้าศิลาจารึกหน้าหลุมศพปูด้วยกระเบื้องประดับด้วยลายดอกไม้และคำจารึกภาษาอาหรับ ปี 1825 ได้รับการบูรณะ ตามคำสั่งของ Allakuli Khan มีการก่ออิฐที่แข็งแรงขึ้น

Islam-Khoja Madrassah สร้างในปี 1908 โดยนายกรัฐมนตรี Khiva Khanate-Islam-Hoja เป็นหอคอยสุเหร่าสัญลักษณ์ของประเทศ ตัวอย่างของสถาปัตยกรรมยุคกลาง ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 1910 รูปทรงเรียว มองเห็นได้จากทุกที่ในเมือง

มัสยิดและสุเหร่า Jami เป็นมัสยิดประจำเมือง มีชั้นเดียวขนาดใหญ่ มีหอคอยอิฐสูง ก่อสร้างเรียบง่าย บางส่วนของมัสยิดมีอายุย้อนไปในศตวรรษที่ 10 แต่ Muhammad Amin-Inakh ได้สร้างขึ้นใหม่ในปี 1788-89 บนที่ตั้งเดิมที่มีขนาดเล็กกว่า ห้องโถงละหมาดเรียบง่ายมีเสาไม้แกะสลัก 218 เสา ล้อมรอบด้วยกำแพงอิฐสูงชั้นเดียว หอคอยสุเหร่าสูง 32 เมตร

 
ที่พัก โรงแรม FAROVON HOTEL KHIVA หรือเทียบเท่าระดับ 4ดาว

 

วันที่สาม คิว่า- บูคาร่า (Long Journey)
 
เช้า บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 5)
 
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองบูคาร่า (Bukhara) ระยะทาง 475 กม. ใช้เวลาเดินทางราวๆ 7 ชั่วโมง ผ่านเส้นทาง ทะเลทราย Kyzylkum desert เป็นทะเลทรายที่ใหญ่เป็นอันดับ 15 ของโลก ชื่อหมายถึง ทรายแดงในภาษาเตอร์ก อยู่ระหว่างแม่น้ำ Amu Darya และ Syr Darya ที่ไหลมาบรรจบกัน เป็นภูมิภาคที่เรียกว่า Transoxznia ในอดีต ปัจจุบันแบ่งออกเป็น คาซัคสถาน เติร์กเมนิสถานและอุซเบกิสถาน ครอบคลุมพื้นที่ 298,000 ตร.กม. พื้นที่ประกอบด้วยที่ราบลุ่มและที่ราบสูงหลายแห่ง ส่วนใหญ่เป็นเนินทราย

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน (มื้อที่ 6) ระหว่างทาง

บ่าย ออกเดินทางกันต่อ ถึงเมืองบูคาร่าช่วงเย็น ซึ่งเมืองบูคาร่า เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับเจ็ดของอุซเบกิสถาน มีประชากรราว 280,187 คน (2020) ใช้ภาษาทาจิกิสถานของภาษาเปอร์เซีย ที่ชาวอุซเบกใช้เป็นภาษาที่สอง ผู้คนอาศัยอยู่มาอย่างน้อยห้าพันปี ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมและเป็นศูนย์กลางการค้า การศึกษาและวัฒนธรรม ศาสนามายาวนาน เคยเป็นเมืองหลวงของจักวรรดิซามานิด คานาเตะแห่งบูคาราและเอมิเรตแห่งบูคารา เป็นบ้านเกิดของนักวิชาการอิหม่ามบุคอรี เมืองนี้รู้จักในชื่อ โนเบิล บุคารา มีอนุสรณ์สถานทางสถาปัตยกรรมกว่า 140 แห่ง ที่ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนไว้ในปี 1993 นำท่านเช็กอินเข้าที่พัก
 
เย็น บริการอาหารเย็น (มื้อที่ 7)

ที่พัก โรงแรม WYNDHAM HOTEL BUKHARA หรือ Paradise Plaza Luxury หรือ เทียบเท่าระดับ 4ดาว
 

วันที่สี่ บูคาร่า

เช้า  บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 8)

 09.00 น. หลังอาหารนำท่านเดินเท้าเที่ยวชมตัวเมืองบูคาร่า Ensemble Lyabi Hauz เป็นศูนย์กลางของกลุ่มสถาปัตยกรรมอันงดงามที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16และ 17 สร้างล้อมรอบสระน้ำทั้งสามด้าน ประกอบไปด้วยอาคารขนาดใหญ่สามหลัง ได้แก่ Kukeldash Madrassa ทางตอนเหนือ สร้างขึ้นช่วงปลายปี 1560 โดย Kulbaba Kulkedash เป็นโรงเรียน Madrasa ที่ใหญ่ที่สุดใน Bukhara อีกทั้งยังเป็นอาคารเก่าแก่ที่สุด มีห้อง 160 ห้อง ด้านหน้าอาคารเดิมประดับด้วยมาจอลิกา ทำหน้าที่เป็นทั้งคาราวานซารายและป้อมปราการป้องกันรวมถึงที่ประหารชีวิตรวมไปถึงการสร้างวงดนตรี ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์และอาคารทางศาสนาอีก 2 แห้ง ที่สร้างโดย Nadir Divan-Beghi คือ Khanaka(1620) อยู่ทางฝั่งตะวันตก เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มียอดโดม ทางเข้าหลักแคบและขยายออก ด้านหน้ามีหอคอยตัดสูงเท่ากำแพง และ Nadir Divanbegi Madrassa(1622) อยู่ทางตะวันออก ทางเข้ามีรูปสัตว์สองตัวที่ถือกวางขาวและใบหน้ามนุษย์ในดวงอาทิตย์ เป็นศิลปะในโลกอิสลาม รวมไปถึงอนุสาวรีย์ Khodja Nasreddin ติดตั้งในปี 1979 ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ ท่านเป็นวีรบุรุษแห่งเอเชียตะวันออกที่ผสมผสานความเรียบง่ายและภูมิปัญญา ความไร้เดียงสา ประเพณีนิยม ความคิดริเริ่มที่เข้ากันไม่ได้ คาดเดาไม่ได้และสามารถจะมีความสุขไปกับชีวิตอยู่เสมอ มีไหวพริบและสติปัญญา คารมคมคาย เป็นฮีโร่วรรณกรรม ผู้คนนิยมมาที่อนุสาวรีย์มาชาร์จพลังความสนุกสนานและอารมณ์ดีตลอดวัน

มัสยิด Magoki Attari Mosque หนึ่งในมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดที่หลงเหลืออยู่จากการรุกรานของมองโกเลีย

Abdullakhans Tim ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์พรม สันนิษฐานว่าสร้างในศตวรรษที่ 9-10 บนซากวิหารโซโรแอสเตอร์จากยุคก่อนอิสลาม ก่อนการพิชิตของชาวอาหรับ มีตลาดสดบริเวณมัสยิดขายสินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก เซรามิค เสื้อผ้าและพรม ในศตวรรษที่ 12 เมื่อ Kara-Khanids ขึ้นปกครองบูคาร่า ได้สร้างมัสยิดและตกแต่งใหม่ ช่วงกลางศตวรรษที่ 15 มีการบูรณะ สร้างเพิ่มเติมฝั่งตะวันออก และบูรณะอีกครั้งช่วงต้นปี 1930

คาราวานซาราย Sayfuddin (ศูนย์พัฒนาหัตถกรรมบูคาร่า) ในอดีตเป็นที่พักพิงของพ่อค้าผู้ร่ำรวย ที่ค้าทองคำ ไข่มุก เพชร และโลหะมีค่าอื่นๆ ปัจจุบันทางเข้ามีร้านค้าเล็กๆ จำหน่ายของที่ระลึกและงานหัตถกรรม เป็นเครื่องเตือนใจว่าครั้งหนึ่งเคยมีพ่อค้าหลายร้อยรายจากทั่วเส้นทางสายไหมแวะมาพัก ให้ท่านได้เพลิดเพลินไปกับการเลือกซื้อของที่ระลึก

 กลางวัน บริการอาหารกลางวัน (มื้อที่ 9)
 
บ่าย ชม Madrassas Ulugbek ถูกพบในปี 1417 ตามคำจารึกบนแผ่นทองสัมฤทธิ์ที่ช่องประตู เป็น Madrasah แห่งแรกที่สร้างโดย Ulugbek เก่าแก่ที่สุดที่ได้รับการอนุรักษ์ในเอเชียกลาง มีการซ่อมแซมครั้งใหญ่ปี 1586 เป็นอนุสรณ์สถานความรุ่งเรืองของสถาปัตยกรรมเอเชียกลาง ไดรับมรดกโลกจากยูเนสโกปี 1993 โดยเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ประวัติศาสตร์แห่งบูคารา ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งการฟื้นฟูอนุสรณ์สถานบูคารา ฝั่งตรงข้ามจะเป็น Abdulaziakhan หรือที่เรียกว่า Madrassas Kosh สร้างในปี 1651-1652 เป็น Madrasah ขนาดใหญ่แห่งสุดท้ายในบูคาร่า จัตุรัส Poi Kalon มีหอคอย Kalon และมัสยิด Mir Arab Madrassa เป็นหัวใจสำคัญของ Bukhara ป้อม Ark Fortress ป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดย้อนหลังไปถึงศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช เยี่ยมชมสุสาน Samanids Mausoleum ในศตวรรษที่ 9 เป็นอนุสรณ์สถานของสถาปัตยกรรมยุคกลางตอนต้น

เย็น บริการอาหารเย็น (มื้อที่ 10)
 
ที่พัก  โรงแรม WYNDHAM HOTEL BUKHARA หรือ Paradise Plaza Luxury หรือ เทียบเท่าระดับ 4ดาว


วันที่ห้า บูคาร่า-ซาร์มาคานด์
เช้า บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 11)
 
09.00 น. นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองซาร์มาคานด์ ใช้เวลาเดินทาง 4-5 ชั่วโมง ระหว่างทางนำท่านชม เครื่องปั้นดินเผาที่มีชื่อเสียงของ Gijduvan เป็นบ้านเกิดของนักเซรามิกชื่อดัง Abdullo Narzullayev ชมกระบวนการทำเซรามิกตั้งแต่การผลิตและการทาสี ชมการสาธิตการทำเครื่องปั้นดินเผาตั้งแต่เริ่มปั้นจนทำสีจากวัตถุดิบธรรมชาติตกแต่ง อบแห้ง และเผา ชมพิพิธภัณฑ์หอเซรามิก ผลงานชิ้นเอกที่เป็นเอกลักษณ์ เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องเซรามิกและเคบับ ซึ่ง Guijduvan เป็นเมืองเล็กๆห่างจากบูคาร่า 46 กม. ในสมัยโบราณเป็นรู้จักในฐานะศูนย์กลางการค้าและงานฝีมือ เครื่องเซรามิกที่สวยงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยการใช้ลวดลายเลขาคณิต ในปัจจุบันก็ยังคงเป็นศูนย์กลางเพียงแห่งเดียวในภูมิภาคที่เชี่ยวชาญด้านการผลิตเซรามิกเคลือบโพลีโครมาติกตามประเพณีเก่าแก่

กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน (มื้อที่ 12)

บ่าย  ออกเดินทางกันต่อสู่เมืองซาร์มาคานด์ ซึ่งเป็นเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของอุซเบกิสถาน หนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่สุดที่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างต่อเนื่องในเอเชียกลาง มีประชากรราวๆ 551ม700 คน(2021) เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของอุซเบกิสถาน ชาวเมืองนี้พูดภาษาทาจิกิสถาน ได้รับการยกย่องว่าเป็นศูนย์กลางการศึกษาด้านวิชาการอิสลามและเป็นแหล่งกำเนิดของ Timurid Renaissance ในศตวรรษที่ 14 ซาร์มาคานด์สมัยใหม่แบ่งออกเป็นสองส่วนคือ เมืองเก่าและเมืองใหม่ที่ได้รับการพัฒนาสมัยจักรวรรดิรัสเซียและสหภาพโซเวียต เมื่อเก่าประกอบด้วยอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ ร้านค้าและบ้านส่วนตัวเก่าแก่ เมืองใหม่จะเป็นอาคารบริหารพร้อมศูนย์วัฒนธรรมและสถาบันการศึกษา
 
เย็น บริการอาหารเย็น (มื้อที่ 13)

ที่พัก โรงแรม CONTINENTAL HOTEL SAMARKAND หรือเทียบเท่าระดับ 4ดาว
 

วันที่หก ซาร์มาคานด์-ทาชเค้นท์
 
เช้า  บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 14)
 
09.00 น. นำท่านเที่ยวชมเมืองซาร์มาคาน ได้แก่ สุสาน Gur Emir Mausoleum ห้องเก็บศพของ Timur The Great และลูกหลาน ตกแต่งด้วยเครื่องทอง ถือเป็นสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เริ่มก่อสร้างในปี 1404 อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง เป็นสุสานประจำตระกูลของ Timurids โดมและกระจกเคลือบได้รับการบูรณะในปี 1967 สุสานหินใต้โดมล้อมรอบด้วยซุ้มหินอ่อนสวยงาม เป็นต้นแบบอนุสรณ์สถานที่สำคัญ เช่น สุสาน Humayun ในเดลีและสุสานทัชมาฮาลในอักรา เดินทางต่อไปยัง จุตรัส Registan Square อันโด่งดังใจกลางซามาร์คานและผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมยุคกลางเอเชียกลางประกอบด้วยความยิ่งใหญ่ 3 ประการ อาคาร Ulughbek Madrassa เป็นโรงเรียนสอนศาสนาในศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของซาร์มาคานด์ แหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในอุซเบกิสถาน สร้างขึ้นระหว่างปี 1417-1421 โดย Ulugh Beg ผู้ว่าราชการเมืองซาร์มาคานด์ในแคว้น Timurid ในขณะนั้น เป็นอาคารเก่าแก่ที่สุดในเรจิสถาน เป็นอาคารเดียวจากศตวรรษที่ 15ที่ยังรอดชีวิต รวมถึง Madrassa Sherdor ที่อยู่ด้านหน้า เป็นโรงเรียนอิสลาม สร้างในปี 1619-1636 มีชื่อเสียงด้านการตกแต่งด้วยกระเบื้องมากมายและภาพวาดแนวพืชหลากสี ผนังเป็นคำพูดในคัมภีร์อัลกุรอาน ตรงกลางซุ้มประตูมีเครื่องหมายสวัสดิกะและ Madrassa Tilla Kori เริ่มสร้างในปี 1646 ตามคำสั่งของ Yalangtush Bakhadur ผู้ปกครองเมืองแล้วเสร็จในปี 1660 เป็นอาคารกลุ่มสุดท้ายในกลุ่มสถาปัตยกรรม Registan สร้างบนพื้นที่คาราวานซารายที่มีมานานกว่าสองศตวรรษ ชื่อ Madrassah ได้มาจากการตกแต่งสีทอง

มัสยิด Bibi Khanim Mosque อาคารยุคกลางในปี 1399-1404 ที่ใหญ่ที่สุดในเมือง เป็นหนึ่งในมัสยิดที่งดงามที่สุดในโลกอิสลามในศตวรรษที่ 15 ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ภรรยาอันเป็นที่รักของติมูร์

Shahi Zinda Necropolis สุสานอันเป็นเอกลักษณ์ที่สร้างขึ้นโดยการยืนอยู่บนนั้น ทั้งสองด้านของอนุสาวรีย์ (หลุมศพในจินตนการ) ที่เป็นของชาวมุสลิมชื่อว่า นักบุญ Abbas Ibn-Kussam

หอดูดาว Ulugbeks Observatory ศูนย์ดาราศาสตร์ที่ดีที่สุดในโลกยุคกลาง เป็นหนึ่งในหอดูดาวที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียกลาง สร้างขึ้นตามคำสั่งของ Ulugbek นักวิชาการและนักดาราศาสตร์ ในปี 1428-1429 เป็นอาคารทรงกลม 3 ชั้น

ตลาดซาร์มาคานด์ Siyab หนึ่งในตลาดสดที่เก่าแก่ที่สุดในซาร์มาคานด์ ได้สัมผัสกับชีวิตชีวาโบราณเมื่อหลายปีก่อน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมัสยิด Bibi-Khanym ตลาดใต้โดมสีน้ำเงิน จำหน่ายผัก ผลไม้ เบเกอร์รี่ ธัญพืชมากมาย

กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน (มื้อที่ 15)

16.30 น.  เดินทางไปยังสถานีรถไฟซาร์มาคานด์ เพื่อโดยสารรถไฟกลับไปยังเมืองทาชเค้นท์
 
17.28 น. รถไฟออกจากสถานีซาร์มาคานด์ไปยังเมืองทาชเค้นท์ ด้วยรถไฟความเร็วสูง Afrosiyob
19.44 น. เดินทางถึงเมืองคาชเค้นท์ นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก พร้อมäบริการอาหารเย็น (มื้อที่ 16)

 ที่พัก โรงแรม NAVRUZ HOTEL TASHKENT  หรือ INSPIRA-S HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 3++
 
วันที่เจ็ด ทาชเค้นท์

เช้า บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 17)

09.00 น. นำท่านเที่ยวชมตัวเมืองทาชเค้นท์ ทั้งโซนเมืองเก่าและเมืองใหม่ ได้แก่

จัตุรัส Amir Timur Square ก่อตั้งในปี 1882 เดิมเรียกว่า จัตุรัส Konstantinovsky Square ได้เปลี่ยนชื่อในวันที่ 31 สิงหาคม 1994 ตามชื่อของ Amir Timur เพื่อเป็นเกียรติแก่วัฒนธรรมและผลงานทางประวัติศาสตร์ของผู้พิชิตที่ยิ่งใหญ่

จัตุรัสโรงละครและโรงละครโอเปร่า โรงละครวิชาการแห่งอุซเบกิสถาน ตั้งชื่อตาม Alisher Navoi สร้างในปี 1947 ถือว่าเป็นโรงละครโอเปร่าที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แสดงละครทั้งคลาสสิกและระดับชาติ

จัตุรัสอิสรภาพ Independence Square จัตุรัสหลักของอุซเบกิสถาน สะท้อนอดีต ปัจจุบันและอนาคตของประเทศ มีน้ำพุที่สื่อถึงพลังชีวิตของอุซเบก มีเปลวไฟนิรันดร์ เพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

Earthquake Memorial อุทิศให้กับวันที่น่าสลดใจของแผ่นดินไหวในเมืองทาชเค้นท์ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 1996 และสร้างขึ้นในตำแหน่งศูนย์กลางแผ่นดินไหว เพื่อเป็นเกียรติแก่คนเหล่านั้นที่มีส่วนสร้างเมืองทาชเค้นท์ขึ้นใหม่

รถไฟใต้ดินทาชเค้นท์ สายแรกเปิดตัวในปี 1977 พร้อมสถานีรถไฟที่สวยงามแต่ละแห่งตกแต่งในสไตล์เฉพาะเรื่องด้วยเครื่องประดับแบบดั้งเดิมและสายฟ้า  

 กลางวัน บริการอาหารกลางวัน (มื้อที่ 18)

บ่าย
จัตุรัส Khast Imam Square ศูนย์กลางทางศาสนาของเมืองประกอบด้วย Barakkhan Madrasah สุสาน Kaffal Shashi Mausoleum และห้องสมุดวรรณคดีอิสลามด้วยหนังสืออัลกุรอานศักดิ์สิทธิ์แห่งศตวรรษที่ 7(คัมภีร์อัลกุอานดั้งเดิม Othaman) Khast Imam ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางจิตวิญญาณที่สำคัญที่สุดในเอเชียกลาง ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

ตลาด Chorsu Bazaar ตลาดโบราณแห่งทาชเค้นท์ Chorsu แปลว่า น้ำสี่สาย มีความหมายเชิงสัญลักษณ์หมายถึงการรวมตัวกันของสี่ส่วนหลักของเมืองเก่าในตลาดสดที่คนมาติดต่อค้าขาย
เย็น  บริการอาหารเย็น (มื้อที่ 19) หลังอาหารนำท่านเดินทางไปยังสนามบินและเช็กอินเค้าเตอร์สายการบิน Uzbekistan Airways

22.30 น. เหินฟ้ากลับประเทศไทย ด้วยเที่ยวบินที่ HY 531 ใช้เวลาบิน 6ชั่วโมง 10นาที บนเครื่องมีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการ

วันที่แปด  กรุงเทพฯ
06.40 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

หมายเหตุ
โปรแกรมสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม
 
---------------------
อัตราค่าบริการนี้รวม

-ค่าโรงแรมที่พัก 6 คืน ระดับ 3-4 ดาว มาตรฐานประเทศอุซเบกิสถาน

-ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ กรุงเทพฯ-ทาชเค้นท์-กรุงเทพฯ ฝากซื้อได้ ไม่คิดค่าบริการเพิ่มเติม

-ค่าเครื่องบินชั้นประหยัดเส้นทาง ทาชเค้นท์-Nukus

-อาหารมื้อหลักตามระบุ

-น้ำดื่มวันละ 1 ขวด

-ค่าธรรมเนียมวีซ่าท่องเที่ยวอุซเบกิสถาน (E-visa) เฉพาะหนังสือเดินทางไทย เข้าออกครั้งเดียว

-รถนำเที่ยวตามรายการระบุ

-ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ตามระบุ

-ไกด์ท้องถิ่นพูดภาษาอังกฤษและหัวหน้าทัวร์ไทย

-ประกันอุบัติเหตุการเดินทาง วงเงิน 1ล้านบาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์

-ตั๋วรถไฟด่วนเส้นทางซาร์มาคานด์-ทาชเค้นท์

 อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

-ค่าน้ำหนักสัมภาระเกินกว่าที่สายการบินกำหนด

-ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต มินิบาร์ ซักรีด ค่าเครื่องดื่มและอาหารที่สั่งเพิ่มเติม

-ค่าพักเดี่ยว

-ค่าธรรมเนียมกล้องถ่ายรูป/วิดีโอ ค่าเข้าห้องน้ำระหว่างทาง

-ค่าทิปไกด์และคนขับรถท้องถิ่น 40 USD/ลูกค้าหนึ่งท่าน และหัวหน้าทัวร์ไทย 800 บาท/ลูกค้าหนึ่งท่าน

-ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และ หัก ณ ที่จ่าย 3% ในกรณีต้องการใบเสร็จเต็มรูปแบบ

 
การสำรองที่นั่งและการชำระเงิน

1.      มัดจำท่านละ 20,000 บาท พร้อมส่งหน้าพาสปอร์ตผู้เดินทาง



คะแนนและรีวิวสินค้า
ยังไม่มีคะแนนและรีวิว เป็นคนแรกที่แสดงความคิดเห็น

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy