แชร์

ทัวร์เอธิโอเปีย 13 วัน 11 คืน

อัพเดทล่าสุด: 13 ม.ค. 2025
633 ผู้เข้าชม
ทัวร์เอธิโอเปีย 13 วัน 11 คืน
Lelibela ชมโบสถ์มรดกโลก Omo Valley ชมชนเผ่า สัมผัสพื้นที่ที่ร้อนที่สุดในโลก Dallol- Danakil Depression ภูเขาไฟที่ยัง Active Erta Ale
แผ่นดินแสงอาทิตย์ส่อง 13 เดือน   เดินทาง โดยสายการบินเอธิโอเปี้ยน แอร์ไลน์
 
ไฮไลท์ 
 Omo valley ร่ำรวยไปด้วยชนเผ่าหลากหลาย ชมชนเผ่า Mursi Karo Hamer Doze
 Lalibela : โบสถ์ที่ขุดในหิน ได้รับมรดกโลก
 Lake Chamo
 Danakil Depression ดินแดนที่ได้ชื่อว่าร้อนที่สุดในโลก
 ทะเลเกลือ ระหว่างทางไป Danakil
 ภูเขาไฟ Erta ale ประตูสู่นรก เพราะขึ้นไปชมปากปล่องภูเขาไฟ ที่ลาวาอุณหภูมิถึง 1000 องศาเซลเซียส
บางช่วงของทริปอาจจะลำบากการแคมป์ปิ้ง ที่ Danakil Depression และ ภูเขาไฟ Erta ale ผู้จองควรศึกษาข้อมูลก่อน
 
โปรแกรมการเดินทาง

วันเช็คอิน 4 เม.ย.  68 : กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ  
22.00 น. คณะเดินทางพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 10 Row U  เคาน์เตอร์สายการบิน ETHIOPIAN AIRLINES   
 
วันที่หนึ่ง 5 เม.ย. 68 : กรุงเทพฯเอธิโอเปีย  Addis Ababa Lalibela   (B/L/D)
01.50 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศเอธิโอเปีย เที่ยวบินที่ ET 629  ใช้เวลาบิน 8 ชั่วโมง 40 นาที บนเครื่องบินมีäอาหารและเครื่องดื่มบริการ
 
06.30 น. เดินทางถึง สนามบิน ADDIS ABABA ประเทศเอธิโอเปีย (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) จากนั้นนำท่าน ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง  นำท่านเดินทาง transfer ไปยังอาคาร Domestic  เพื่อเดินทางต่อไปยัง Lalibela อิสระรับประทานอาหารเช้าแบบ set box (มื้อที่ 1)
 
11.50 น. นำเท่านเดินทางด้วยสายการบิน Ethiopian Airlines เที่ยวบิน ET 120
 
13.05 น. ถึงสนามบิน Lalibela รับกระเป๋าสัมภาระ เดินทางไปรับประทานอาหารกลางวัน
 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 2)
 
บ่าย Lalibela เป็นเมืองในอำเภอลาสทาในโวลโลโซเนเหนือ รัฐอามารา ของประเทศเอธิโอเปีย ความสูงประมาณ 2500 เมตร อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เป็นที่รู้จักจากโบสถ์โมโนลิธเจาะหิน ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกภายใต้ชื่อหมู่โบสถ์คริสต์ที่สลักเข้าไปในหินแห่งลาลีเบอลา ลาลีเบอลาเป็นศูนย์กลางที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคโบราณของเอธิโอเปีย และ สำหรับชาวคริสต์ ลาลีเบอลาเป็นเมืองที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดรองจากอักซุม นำท่านชม โบสถ์กลุ่มที่ 1 Bieta Medhanialem , นำท่านชม โบสถ์แห่ง Bieta Mariam (Chapel of Mary) , โบสถ์แห่ง Bieta Denagel (Chapel of the Virgins)  และ โบสถ์คู่ Debre Sina and Bieta Golghotha
 
ค่ำ บริการอาหารเย็น (มื้อที่ 3) หลังอาหารอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
 
ที่พัก Panoramic View Hotel หรือ เทียบเท่า
 
วันที่สอง 6 เม.ย. 68 :  Lalibela  (B/L/D)
 08.00 น.  อรุณสวัสดิ์ยามเช้า äรับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 4)
 09.00 น. นำท่านเดินทางสู่ Lalibela   นำท่านไปชมเมืองแห่งโบสถ์ ซึ่งมีกลุ่มโบสถ์ของนิกายออร์โธด๊อกซ์ ที่ถูกสร้างเรียง รายอยู่ใกล้ ๆ กัน โดยมี โบสถ์หินแห่งลาลิเบล่าที่ใช้การตัดหินภูเขาไฟทั้งก้อนมา แกะสลักและสร้างเป็นโบสถ์ จนได้รับการประกาศเป็น เขตมรดกโลก โบสถ์หินโบราณกลุ่มสอง (The Second group of Rock-Hewn Churches) ซึ่งพลาดชมไม่ได้คือ  Bet Giyorgisเป็นโบสถ์หินที่ได้รับการปกป้องดูแลรักษาสภาพคงเดิมของโบสถ์ที่ดีที่สุด ตั้งอยู่ทางทิศ ตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน Bet Merkoriosเป็นโบสถ์หินที่ถือว่าเป็นคุกหลวงแห่งลาลิเบล่า  โบสถ์นักบุญจอร์จ ผลงานชิ้นเอกของลาลิเบลลาที่สกัดเป็นรูปไม้กางเขน สไตล์ออร์โธด๊อกซ์สูง 15 ม.ภายในมีกล่องไม้มะกอกอายุ 800 ปี 2 กล่อง โบสถ์พระผู้ช่วยให้รอดของโลก โบสถ์หินสกัดใหญ่สุดในโลกมีความสูง 11.5 ม.สร้างตามรูปแบบดังเดิมของโบสถ์พระแม่มารีแห่งไซอันในอัคซูม ภายในมีหลุมศพว่างเปล่า 3 หลุม เป็นสัญลักษณ์ของศาสดาอับบราฮัม ไอแซค และยาคอบ และไม้กางเขนทองคา หนัก 7 กก. โบสถ์อมานูเอล โบสถ์ส่วนพระองค์ของราชวงศ์กษัตริย์เอธิโอเปีย เป็น โบสถ์ที่สกัดได้วิจิตรที่สุดโดยไม่มีส่วนใดติดกับหน้าผาเลย
 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 5) 
 
บ่าย นำท่านเก็บตกโบสถ์ต่างๆ ที่สำคัญในเมือง Lalibela เพิ่มเติม
 
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 6)
 
ที่พัก  Panoramic View Hotel หรือ เทียบเท่า
 
วันที่สาม 7 เม.ย. 68 : Lalibela Addis ababa Mount Entoto (B/L/D)
 
07.00 น. อรุณสวัสดิ์ยามเช้า äรับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 4)
 
08.00 น. โบสถ์ถ้ำ Neakutoleab อันมีเสน่ห์ ซึ่งเป็นโบสถ์แห่งต้นศตวรรษที่ 13 ภายในมีสิ่งของต่างๆ ที่เชื่อกันว่าเป็นของ Na'akuto La'ab เช่น มงกุฎ กลองวาดด้วนทอง ไม้กางเขน ผืนผ้าใบวาดภาพขนาดใหญ่แสดงภาพกษัตริย์ในสมัยโบราณ และพระคัมภีร์เก่า อารามแห่งนี้มีภาชนะหินโบราณที่ใช้รวบรวมน้ำที่หยดลงมาจากหลังคาถ้ำซึ่งคิดว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์  สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางไปยังสนามบิน Lalibela
 
13.35 น. เดินทางด้วยเที่ยวบิน ET 121
 
14.50 น. ถึง Addis Ababa นำท่านเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวัน Late Lunch
 
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 5) 
 
บ่ายแก่ นำท่านเดินทางไปจุดชมวิวบนเขา Mount Entoto เป็นจุดชมวิวเมือง Addis Ababa โดยก่อนมาชมวิวนำท่านมาชม พิพิธภัณฑ์เล็กๆ ก่อนมาชมวังเก่า และ โบสถ์เล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่บนเขา Entoto
 
ที่พัก  Best Western Plus Hotel หรือ เทียบเท่า ระดับ 4 ดาว
 
หมายเหตุ
ควรแยกกระเป๋าใบเล็ก สำหรับค้างแคมป์สองคืน ที่ ภูเขาไฟ Erta ale และ Danakil Depression และกระเป๋าใบใหญ่เราจะฝากไว้ที่โรงแรมที่ Semera
การท่องเที่ยวใน ภูเขาไฟ Erta Ale และ Danakil Depression เมื่อมาเอธิโอเปีย แล้วไม่ควรพลาด แต่การท่องเที่ยวค่อนข้างลำบาก ผู้เดินทางต้องเผื่อใจและทำใจกับความลำบากที่จะเกิดขึ้นด้วยนะคะ เป็นพื้นที่ห่างไกล ต้องนอนแคมป์ ไม่มีโรงแรมและน้ำให้อาบนะคะ ต้องเตรียมทิชชูเปียกและไฟฉายแบบคาดหัว
 
 
วันที่สี่ 8 เม.ย. 68 : Flight to Semera and Drive to Ertale
 
04.00 น. อรุณสวัสดิยามเช้า นำท่านออกเดินทาง ไปยังสนามบินพร้อม รับอาหารเช้าแบบกล่อง (มื้อที่ 06)  เพื่อความสะดวกในการเช็คอินที่สนามบิน
 
04.30 น.  เช็คอินที่เคาท์เตอร์สายการบิน Ethiopian Airlines
 
06.40 น.  เดินทางสู่ Semera ด้วยเที่ยวบิน ET 110  สายการบินเอธิโอเปียแอร์ไลน์   ใช้เวลาเดินทาง 1.20 ชั่วโมง
 
08.05 น. ถึง Semera นำท่านเดินทางสู่ Ert a Ale เป็นพื้นที่ห่างไกล ใกล้ กับ ชายแดนประเทศ Eritrea ด้วยรถ 4WD ขับรถไปที่ Afdera ทะเลสาบ Afrera เป็นทะเลสาบที่มีความเค็มสูงทางตอนเหนือของเอธิโอเปีย  เป็นหนึ่งในทะเลสาบของ Danakil Depression มีพื้นที่ผิว 100 ตารางกิโลเมตร และเป็นแหล่งที่มาของการบริโภคเกลือถึง 85% ของประเทศ รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 07) แล้วขับรถต่อไปยังที่เรียกว่า 'โดดุม' Dodum  ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟErta Ale จนถึงขณะนี้ถนนมีสองส่วน ภูเขาไฟ Erta Ale ยังมีการปะทุอย่างต่อเนื่องมากว่า 40 ปี ถึงจุดตั้งแคมป์ ทีมงานตั้งตั้งแคมป์ รวมทั้งทีมพ่อครัวเตรียมทำอาหารเย็น
 
18.00 น. รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 08) ที่แคมป์
  หลังจากอากาศเย็นลง หลังพระอาทิตย์ตกดิน เราจะเริ่มต้นเดินไปยังขอบปล่องภูเขาไฟแอร์ตาเอล ใช้ 
 เวลาเดินประมาณ 30 นาที ไปที่ด้านบนสุด  ควรเตรียมหน้ากาก หรือ mask หรือ ผ้าบัฟชุปน้ำไปด้วย ป้องกันกลิ่นจากภูเขาไฟ นำท่าน ชมปล่องภูเขาไฟและไปยังขอบปล่องภูเขาไฟ ชมทะเลสาบ ลาวาถาวรแห่งเดียวในโลก ลาวาที่มีอุณหภูมิ 1100 องศาเซลเซียส ได้ชื่อว่าเป็น ประตูสู่นรก The Gate to Hell  ถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินกลับมาที่แคมป์
 
ที่พัก  แคมป์ปิ้ง  นอนแคร่ ไม่สะดวกสบาย โปรดเตรียมใจไว้  แต่ทางทีมงาน พอมีเตรียมน้ำให้อาบ
 
วันที่ห้า 9 เม.ย. 68 : Drive to Hamed Ella
 
05.00 น.  อรุณสวัสดิยามเช้า นำท่านเดินขึ้นไปชมปากปล่องภูเขาไฟ Erta ale ดูทะเลลาวากันอีกสักรอบ ก่อนอำลา ภูเขาไฟ  จากนั้นกลับมารับประทานอาหารเช้า  (มื้อที่ 09)  หลังอาหารเช้านำท่านเดินทางไปต่อยัง ต่อสู่ หมู่บ้านฮาเมเดลลา (Hamedella) ระหว่างทางผ่าน เมือง เบอเฮล (Berhale) เพื่อผ่านกระบวนการPermit สําหรับการเข้าสู่เขตเขต อะฟาร์(Afar) เนื่องจากบริเวณนี้เป็นพื้นที่ชายแดนและมีความอ่อนไหว โดยเราจะมีทหารที่ติดอาวุธร่วมเดินทางไปกับเราด้วย
 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 10) หลังอาหารเดินทางต่อ ระหว่างทางเราจะได้เพลิดเพลินกับวิวทะเลเกลือ และ ชาวบ้านมาขุดเกลือขาย ขนใส่อูฐ และ เราจะชมวิวพระอาทิตย์ตกดินกันที่ทะเกลือ ใกล้กับที่เราจะแคมป์ปิ้งกันที่ Dallol
 
บ่ายๆ  นำท่านเดินทางสู่เมือง Semera ระหว่างทางเราจะได้เพลิดเพลินกับวิวทะเลเกลือ และ ชาวบ้านมาขุดเกลือขาย ขนแผ่นเกลือใส่อูฐขนย้าย
 
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 11) ที่แคมป์ หลังอาหารอิสระพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
 
ที่พัก  แคมป์ปิ้ง  นอนแคร่ ไม่สะดวกสบาย โปรดเตรียมใจไว้  แต่ทางทีมงาน พอมีเตรียมน้ำให้อาบ
 
 วันที่หก 10 เม.ย. 68 : Danakil Depression-DallolSurferic acidSalt LakeSemera
 07.00 น. อรุณสวัสดิ์ยามเช้า รับประทานอาหารเช้า  (มื้อที่ 12)  หลังอาหารเช้านำท่านเดินทางไป Dallol ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 116 เมตรเป็นจุดต่ำสุดในทวีปแอฟริกา เราเรียกกันว่าแอ่ง Danakil Depression แอ่งกว้างใหญ่ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 50 องศาเซลเซียส เป็น สถานที่ร้อนที่สุดในโลก ที่มีมนุษย์อยู่อาศัย อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี 34 50 องศาเซลเซียส เป็นแอ่งซึ่งเกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกสามแผ่นซึ่งอยู่ในเขตจะงอยแอฟริกา บริเวณแอ่งดานาคิล ประกอบด้วยหินตะกอนทับด้วยหินอัคนี (เช่น หินบะซอลต์) ซึ่งเกิดจากการแยกตัวของแผ่นเปลือกโลกจนหินหลอมเหลวแทรกตัวขึ้นมา ชมภูมิทัศน์อันงดงาม พื้นสีแดง เหลือง และส้มหลากหลายเฉดจากน้ำร้อน กรด และแร่ธาตุที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน ที่ซึ่งทะเลสาบกรดก่อตัวเป็นกำมะถันหลากสีสันในบริเวณที่ร้อนที่สุดและลึกที่สุดของ ดานาคิล  การเดินเที่ยวชมต้องอยู่ในความดูแลของไกด์ และ เชื่อฟังปฏิบัติตามเพราะเป็นพื้นที่กรดอาจเกิดอันตรายได้
 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 13)   
 
บ่ายๆ  นำท่านเดินทางสู่เมือง Semera ระหว่างทางเราจะได้เพลิดเพลินกับวิวทะเลเกลือ และ ชาวบ้านมาขุดเกลือขาย ขนแผ่นเกลือใส่อูฐขนย้าย
 
เย็น รับประทานอาหารค่ำ (มื้อที่ 14)   
 
ที่พัก   โรงแรม Kariftu Afar Resort หรือ เทียบเท่า
 
วันที่เจ็ด  11 เม.ย. 68 : Semera Addis Ababa City tour National Museum -St. George Cathedral Tomoca Coffee - Addis Ababa (B/L/D)
 
06.30 น.  อรุณสวัสดิ์ พร้อมรับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 15)  หลังอาหารเช้านำท่านเดินทางสู่สนามบิน
 
10.00 น. เดินทางสู่ Addis Ababa ด้วยเที่ยวบิน ET 111
 
11.20 น. ถึง Addis Ababa รับกระเป๋าสัมภาระ นำท่านเดินทางไปรับประทานอาหารกลาง (มื้อที่ 16) หลังอาหาร นำท่านไปชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งขาติเอธิโอเปียชมซากจำลองของมนุษย์ที่ให้ชื่อว่า Lucy อายุ 3 ล้านปี   St. George Church // เลือกซื้อ ของฝาก กาแฟที่ขึ้นชื่อแบรนด์ดังของเอธิโอเปีย TOMOCA COFFEE จากนั้นนำท่านเดินทางไปเช็คอินโรงแรม ใน Addis Ababa
 
เย็น รับประทานอาหารค่ำ (มื้อที่ 17)
 
ที่พัก  Best Western Plus Hotel หรือ เทียบเท่า ระดับ 4 ดาว
  
วันที่แปด 12 เม.ย.. 68 : Addis Ababa-Arbaminch-DOZE Village-Lake Chamo
 
05.00 น. อรุณสวัสดิ์ยามเช้า  บริการอาหารเช้าแบบกล่อง (มื้อที่ 18) เพื่อความคล่องตัวในการเดินทางไปสนามบิน ภายในประเทศ
 
08.05 น. เหินฟ้าสู่ เมือง Arbaminch ด้วยเที่ยวบินที่ ET 171 ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 5 นาที บนเครื่องมีอาหารว่างบริการ
 
09.10 น. เดินทางถึง เมือง Arbaminch  Arba Minch เป็นเมืองและแยก woreda ทางตอนใต้ของเอธิโอเปีย "Arba Minch" หมายถึง "น้ำพุ 40 แห่ง" มีต้นกำเนิดมาจากการมีน้ำพุมากกว่า 40 แห่ง ตั้งอยู่ในเขต Gamo ของ Southern Nationalities, Nationalities และ Peoples Region ห่างจากแอดดิสอาบาบาไปทางใต้ประมาณ 500 กิโลเมตร ที่ระดับความสูง 1285 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นแหล่งปลูกผลไม้ มากมายเช่น มะม่วง กล้วย ส้ม แอปเปิ้ล ฝรั่ง  และสับปะรด นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งทำฟาร์มปลา นำท่านเดินทางไปเยี่ยมชมหมู่บ้าน Dorze Village  เป็นกลุ่มชาติพันธุ์เล็กๆ ที่พูดภาษา Omatic  ในหมู่บ้านนี้จะเด่นในเรื่องงานทอผ้า และ การเกษตร เช่นการ ปลูกกะหล่ำ ปลูกยาสูบ กล้วย การผลิตเหล้าหมัก และ การผลิตอาหาร หมักคล้ายขนมปังที่เรียกว่า โคโช (Kocho)  บ้านอยู่อาศัยจะมีลักษณะคล้ายรังผึ้งขนาดใหญ่
 
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน(มื้อที่ 19)
 
บ่าย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางไปยัง Lake Chamo นำท่านล่องเรือ ดูชมสัตว์ป่า เช่น นก Hippo และ จระเข้ เป็นต้น  Turmi
 
เย็น  รับประทานอาหารเย็น(มื้อที่ 20) หลังอาหารอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
 
ที่พัก  Haile Resort Arbaminch หรือ เทียบเท่า
  
วันที่เก้า 13 เม.ย.. 68 : Arbaminch-Konso Village-Turmi (285 km)
 
เช้า อรุณสวัสดิ์ยามเช้า  äบริการอาหารเช้าแบบกล่อง (มื้อที่ 21) หลังอาหารเช้า นำท่านเดินทางไปยัง Turmi ระยะทาง 285 กม. ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง โดยระหว่างทางนำท่านแวะชม หมู่บ้าน คอนโซ (Konso village) เป็นหมู่บ้านที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรม ในปี 2011 หมู่บ้านตั้งบนพื้นที่ค่อนข้างแห้งแล้ง สร้างด้วยกำแพงหินถึง 6 ชั้น เมืองที่มีกำแพงล้อมรอบและการตั้งถิ่นฐาน (paletas) ของภูมิทัศน์วัฒนธรรม Konso ตั้งอยู่บนที่ราบสูงหรือยอดเขาเพื่อความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์และการป้องกันเมืองเหล่านี้ล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกันหินแห้งจำนวนหนึ่งถึงหกรอบ ซึ่งสร้างขึ้นจากหินที่หาได้ในท้องถิ่น พื้นที่ทางวัฒนธรรมภายในเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบ เรียกว่าโมราส ยังคงมีบทบาทสำคัญในชีวิตของคอนโซ เมืองที่มีกำแพงล้อมรอบบางแห่งมีโมรามากถึง 17 โมรา เยี่ยมชมบ้านทรงสุ่มทำจากฟางหญ้า ชาวคอนโซ ยังมีการทำนาแบบขั้นบันได
 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน(มื้อที่ 22)  หลังอาหารกลางวันนำท่านเดินทางไปยัง Turmi Village
 
ค่ำ รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 23)  หลังอาหารอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย 
 
ที่พัก  BUSKA LODGE หรือ PARADISE LODGE เทียบเท่า
 
วันที่สิบ 14 เม.ย..68 : ชมชนเผ่า  Karo / Kara tribe Hamer Tribe Turmi
 
07.00 น  อรุณสวัสดิ์ยามเช้า äรับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 24) ที่ห้องอาหารของ Lodge
 
08.00 น. นำท่านออกเดินทางไปชมชนเผ่า Karo หรือ Kara เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ Nilotic ในเอธิโอเปียที่มีชื่อเสียงในด้านการวาดภาพร่างกาย พวกเขายังเป็นหนึ่งในชนเผ่าขนาดที่เล็กที่สุดในภูมิภาคด้วยจำนวนประชากรประมาณ 1,000-1,200 คน พวกเขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชนเผ่า Hamer และ Banna โดยมีภาษาที่คล้ายคลึงกันถึง 81% พวกเขาอาศัยอยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ Omo ทางตอนใต้ของเอธิโอเปีย และดำรงชีพได้ด้วยการเกษตรกรรมและน้ำท่วมประจำปีตามธรรมชาติ พวกเขามีวัฒนธรรมและประเพณีแบบเดียวกันมาเป็นเวลา 500 ปี เช่น การเต้นรำแบบดั้งเดิม และการทาสีร่างกายด้วยขี้เถ้าและไขมันหรือน้ำผสมกัน เป็นต้น  
 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 25) หลังอาหารกลางวัน นำท่าน เดินทางไปชมชนเผ่า Hamer Tribe ชนเผ่าที่ผู้หญิงจะสวมห่วงหนักๆไว้ที่คอ เพื่อแสดงถึงว่าเป็นภรรยา แต่งงานแล้ว  และ ผมจะเป็นถักเปียเป็นเดทล็อคดินเหนียว ชาวเผ่าประดับร่างกายด้วยรอยแผลเป็นและสวมเครื่องประดับมากมายที่ทำจากลูกปัดหลากสี ถ้าโชคดีจะได้ไปพิธี Bull jumping นี่เป็นพิธีกรรมแบบดั้งเดิมที่เด็กผู้ชายทุกคนต้องเข้าร่วม เพื่อแสดงให้ถึงผู้ชายจากวัยเด็กก้าวข้ามสู่วัยผู้ใหญ่ โดย วิ่งเปลือยเปล่าบนหลังวัวที่เรียงกันเป็นแถว สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับหมู่บ้าน Turmi
 
ค่ำ รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 26)  หลังอาหารอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย 
 
ที่พัก  BUSKA LODGE หรือ PARADISE LODGE เทียบเท่า
 
 วันที่สิบเอ็ด 15 เม.ย. 68 :  Turmi-Jinka-Mursi TribeJinka
 
เช้า  อรุณสวัสดิ์ยามเช้า รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 27) ที่ห้องอาหารของ Lodge หลังอาหารเช็คเอาท์นำท่านเดินทางสู่  เมือง Jinka หมายเหตุ ระหว่างทางจาก Turmi มา Jinka จะมี BannyBoy ที่ใช้ไม้ต่อขอเดินไปมา อยู่รอระหว่างเส้นทางเพื่อแสดงงานศิลปะ เราจะหยุดถ่ายรูปกันประมาณ 15 นาที เมือง Jinka เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ ของเอธิโอเปีย
 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 28) หลังอาหารกลางวัน นำท่าน เดินทางไป
 
อุทยานแห่งชาติมาโก (Mago National Park) ซึ่งเรียกกันว่า Omo Valley เที่ยวชมชนเผ่ามูร์ซี(Mursi) เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ Surmic ใน เอธิโอเปีย ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขต Debub Omoของ ประเทศทางใต้ สัญชาติ และ ภูมิภาคประชาชนใกล้กับชายแดนติดกับซูดานใต้ ที่หมู่บ้านจะตั้งอยู่ใกล้ๆ แม่น้ำ Omo  และ แม่น้ำสาขา Mago ชนเผ่ามูร์ซี จะมีภาษาพูดของตัวเองคือมูร์ซี นับถือศาสนาในรูปแบบลัทธิวิญญาณ ชนเผ่ามูร์ซีอาจเป็นกลุ่มสุดท้ายในแอฟริกา ซึ่งสำหรับผู้หญิงที่จะสวมเครื่องปั้นดินเผาขนาดใหญ่ จานไม้ หรือ จาน ที่ริมฝีปากล่าง ริมฝีปากของเด็กผู้หญิงถูกเจาะเมื่ออายุ 15 หรือ 16 ปี บางครั้งผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานจะสวมแผ่นริมฝีปากเพื่อการเต้นรำ และมีการสวมใส่มากขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเพื่อหารายได้พิเศษ   สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับที่พักในเมือง Jinka
 
เย็น รับประทานอาหารค่ำที่ห้องอาหาร (มื้อที่ 29)  หลังอาหารค่ำ เช็คอินพักผ่อน ตามอัธยาศัย
 
ที่พัก  ECO OMO Lodge หรือ เทียบเท่า
 
วันที่สิบสอง 16 เม.ย.  68 :  Jinka - Addis Ababa - Bangkok
 
06.30 น. อรุณสวัสดิ์ พร้อมäรับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 30)  หลังอาหารเช้านำท่านเดินทางสู่สนามบิน
 
10.15 น. เดินทางสู่ Addis Ababa ด้วยเที่ยวบิน ET 270
 
11.35 น. ถึง Addis Ababa รับกระเป๋าสัมภาระ นำท่านเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันก่อน (มื้อที่ 31) ไป หลังอาหาร นำท่านเก็บตก City tour ส่วนที่เหลือ ไปเลือกซื้อ ของฝาก กาแฟที่ขึ้นชื่อแบรนด์ดังของเอธิโอเปีย TOMOCA COFFEE
 
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 32) ณ ภัตตาคารอาหารจีน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบิน
 
22.40 น. เหินฟ้ากลับกรุงเทพฯ ด้วยเที่ยวบินที่ ET 628 ใช้เวลาบิน 9 ชั่วโมง 20 นาที มีบริการอาหารบนเครื่อง
 
วันที่สิบสาม 17 เม.ย. 68  : Bangkok
 12.00 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
 
*** วันเดินทางกลับมาถึงกรุงเทพฯ ทุกท่านต้องแสดงตนต่อ Health Control ก่อนผ่านกองตรวจคนเข้าเมือง โดยแสดงสมุดเล่มเหลือง หากลืมหรือเดินผ่านไป กองตรวจคนเข้าเมืองจะ ให้ท่านเดินกลับมาใหม่จะทําให้เสียเวลา***
 
หมายเหตุ : โปรแกรมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมและความปลอดภัย  
 
อัตราค่าบริการ 13 วัน 11 คืน  ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน หน่วย: บาท/ท่าน
เดินทาง 4-17 เมษายน // 4-17 ธันวาคม 2568
ขนาดกรุ๊ป  14-16 ท่าน
ผู้ใหญ่ พัก 2 ท่าน  129,000 บาท/ ท่าน
พักเดี่ยวเพิ่ม ท่านละ14,000 บาท
 
ขนาดกรุ๊ป  10-13 ท่าน
ผู้ใหญ่ พัก 2 ท่าน 135,000 บาท
พักเดี่ยวเพิ่ม ท่านละ 14,000 บาท
**ราคานี้ยังไม่รวมตั๋วเครื่องบินทุกเส้นทาง

**ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมโดยไม่แจ้งให้ท่านทราบ ทั้งนี้อาจมีสาเหตุเช่น ช่วงเทศกาล , ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นตามภาวะตลาดโลก, อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา
 
อัตราค่าบริการนี้รวม
- ค่าที่พัก 11 คืน เป็นโรงแรม รีสอร์ท 9 คน และ camping 2 คืน
- ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุ  
-ค่าน้ำดื่มวันละ 2 ขวด
-ค่ารถ ยานพาหนะ   
-ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามที่ระบุ
-ค่าวีซ่าท่องเที่ยวประเทศเอธิโอเปีย แบบ E-Visa  
-หัวหน้าทัวร์ไทย
-ไกด์ท้องถิ่นพูดภาษาอังกฤษ
-ค่าประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทาง ทุนประกัน 1,000,000 บาทตามเงื่อนไขกรมธรรม์

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
-ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ สายการบินเอธิโอเปี้ยนแอร์ไลน์ ให้โหลด กระเป๋า 23*2 ใบ
-ค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศทุกเส้นทาง
-ค่าใช้จ่ายส่วนตัว  เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าบริการซักรีด เป็นต้น
-ค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  ค่ามินิบาร์  ค่าเครื่องดื่มนอกเหนือรายการ
-ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น และพนักงานขับรถ  100 USD/ลูกค้าหนึ่งท่าน
-ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย 1,500 บาท/ลูกค้าหนึ่งท่าน
-ค่าวัคซีนป้องกันไข้เหลือง ราคาเข็มละ 1,000-1,250 บาท แล้วแต่สถานให้บริการ ฉีดครั้งเดียวอยู่ได้ตลอดชีพ
-ค่าธรรมเนียมน้ำมันของสายการบิน (ถ้ามี)
-ค่าทำเอกสารผู้ถือต่างด้าว
-ค่าวีซ่าที่มีค่าธรรมเนียมแพงกว่าหนังสือเดินทางไทย
-ค่ากิจกรรมต่างๆที่นอกเหนือจากโปรแกรมระบุ  เช่น ขี่อูฐ  ลูกหาบส่วนตัว ฯลฯ

 การจองทริปและชำระเงิน
1 จองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการ Trekking
2.ผู้สนใจ โอนเงินมัดจำ ท่านละ  50,000   บาท พร้อมส่งสำเนาพาสปอร์ต
3.ส่วนที่เหลือชำระก่อนเดินทาง 30 วัน มิฉะนั้นทางบริษัทฯ จะขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่ามัดจำทั้งหมด

บทความที่เกี่ยวข้อง
ทัวร์อียิปต์ แกรนด์อียิปต์ 11วัน9คืน
ทัวร์อียิปต์ แกรนด์อียิปต์ 9-19 เมษายน 2568 : 99,000 บาท
12 ม.ค. 2025
ทัวร์กอริลลา อูกันดา รวันดา แอฟริกาตะวันออก
ทัวร์กอริลลา อูกันดา รวันดา 2-13 มิ.ย. 2568 : 180,000 (ยังไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
10 ม.ค. 2025
ทัวร์แทนซาเนีย เคนย่า 12 วัน 9 คืน
ทัวร์แทนซาเนีย เคนย่า สองประเทศสุดคุ้ม The Great Migration 12วัน 9 คืน 12-23 ก.ค. 68 / 2-13 ส.ค. 68 ราคาเริ่มต้น 149,900
12 ม.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy